ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มีนาคม 14, 2017, 07:10:38 PM »ออร์เดอร์ทะลักส่งออกฟื้น
โดย ฐานเศรษฐกิจ
จับชีพจรส่งออกไทยไตรมาส1/60 ทิศทางบวก ปัจจัยเศรษฐกิจคู่ค้าหลักฟื้นตัว ราคาน้ำมัน-สินค้าเกษตรขยับ ?ข้าว-ยาง-ไก่?มั่นใจยอดโต เชื่อไตรมาส 2 ดีต่อเนื่อง การ์เมนต์จับตาไตรมาส4 ยอดพุ่งรับบอลโลก รถยนต์รอรุ่นใหม่เพิ่มความแรง
[/size]จากมูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนมกราคม 2560 ที่ส่งออกได้มูลค่า 1.70 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 8.8% โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 นับจากเดือนพฤศจิกายน 2559 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ระบุเป็นผลพวงเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา จีน และสหภาพยุโรป ต่างปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
[/size]ส่วนราคานํ้ามันดิบ ราคาสินค้าเกษตรสำคัญ และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับนํ้ามันเริ่มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดีทิศทางแนวโน้มการส่งออกในไตรมาสแรกของปีนี้ดีขึ้นจริงหรือไม่ ?ฐานเศรษฐกิจ?ได้ตรวจสอบผู้ประกอบการในหลายกลุ่มสินค้านายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในเดือนมกราคมปีนี้การส่งออกข้าวของไทยในเชิงปริมาณ และมูลค่าเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้วยังติดลบ เนื่องจากเดือนมกราคม 2559 มีข้าวที่ซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีที่ไทยทำสัญญากับจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ส่งมอบข้ามปีจากปลายปี 2558 ทำให้ตัวเลขเดือนมกราคมปีที่แล้วไทยส่งออกข้าวได้เป็นล้านตัน แต่มกราคมปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้ 8.2 แสนตัน ซึ่งถือเป็นระดับปกติและเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ คาดในเดือนกุมภาพันธ์ไทยจะส่งออกข้าวได้ประมาณ 8 แสนตัน หากส่งออกได้ระดับนี้โดยเฉลี่ยทุกเดือน มั่นใจไทยจะส่งออกข้าวในปีนี้ได้ 9.5-10 ล้านตัน(ปี 2559 ส่งออก 9.8 ล้านตัน)
[/size]?จากราคาข้าวส่งออกของไทยเวลานี้ใกล้เคียงคู่แข่งขัน ล่าสุดราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนามที่มีผลผลิตในฤดูกาลใหม่ออกมาราคาส่งออก(เอฟโอบี)เฉลี่ยที่ 360 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ขณะข้าวประเภทเดียวกันของไทยเฉลี่ยที่ 355 ดอลลาร์ต่อตัน ส่วนราคาข้าวนึ่งของไทยราคาสูงกว่าข้าวนึ่งอินเดียเพียง 5-10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน จะจูงใจคู่ค้าหันมาซื้อข้าวไทยมากขึ้นเพราะโดยคุณภาพแล้วของเราดีกว่า และหากกระทรวงพาณิชย์สามารถระบายข้าวในสต๊อกที่เหลืออีกประมาณ 6.5 ล้านตันได้หมดโดยเร็ว คาดราคาข้าวในตลาดโลกจะปรับฐานใหม่ ราคาจะสูงขึ้นกว่าเดิม จากที่ผ่านมาข้าวในสต๊อกรัฐบาลมีผลต่อราคาข้าวโลกไม่ขยับขึ้นมาก เพราะผู้ซื้อไม่เร่งซื้อเก็บสต๊อก?
[/size]นายหลักชัย กิตติพล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยางพาราไทย กล่าวว่า การส่งออกยางพาราของไทยในเดือนมกราคมขยายตัวเพิ่มขึ้นในเชิงมูลค่า 62.5% และเชิงปริมาณ เพิ่มขึ้น 3.8% เป็นผลจากผลผลิตยางขาดแคลน สวนทางกับความต้องการในตลาดโลกมีสูง ประกอบกับเวลานี้สถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ปรับตัวสูงขึ้น ฉุดให้สินค้ายางพาราปรับตัวสูงขึ้นตาม ล้อไปกับราคายางสังเคราะห์ที่เป็นผลพลอยได้จากน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น มั่นใจว่าในไตรมาสที่ 1 และ2 ของปีนี้การส่งออกยางพาราของไทยจะขยายตัวสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างแน่นอน และทั้งปีนี้การส่งออกยางพาราที่ใช้เป็นวัตถุดิบของไทยเชิงมูลค่าจะขยายตัวได้ 30-40% (ปี 2559 ไทยส่งออกยางพารา 1.55 แสนล้านบาท ) และในเชิงปริมาณจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% (ปี 2559 ส่งออก 3.6 ล้านตัน)
[/size]?เวลานี้ทุกตลาดเข้ามาซื้อยางไทยไม่ว่าจีน อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ยุโรป และล่าสุดจากราคาวัตถุดิบยางที่ปรับตัวสูงขึ้นหลายค่ายผู้ผลิตยางรถยนต์ได้ประกาศปรับขึ้นราคายางรถหลายประเทศในตลาดสหรัฐฯไปแล้วไม่เกิน 8% จากราคาเดิม มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2560 อย่างไรก็ดีราคายางพาราในประเทศคาดเฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 65-80 บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นลงตามดีมานด์-ซัพพลาย?
[/size]ด้านสินค้าไก่ นายประสิทธิ์ ฉลองชัยชาญ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไก่ของไทยในปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากปัจจัยที่หลายประเทศในภูมิภาคประสบปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก ล่าสุด พบการระบาดในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เกาหลีใต้ระงับการนำเข้าเนื้อไก่และไข่จากสหรัฐฯ ขณะที่ในเกาหลีใต้เองก็ประสบปัญหาไข้หวัดนกด้วยเช่นกัน ทำให้สินค้าไก่ของไทยสามารถส่งเข้าไปทดแทนในตลาดเกาหลีใต้ได้มากขึ้น
[/size]ในส่วนของซีพีเอฟคาดปีนี้จะส่งออกสินค้าไก่ได้ประมาณ 1.4-1.5 แสนตันจากปีที่แล้ว ส่งออกได้ประมาณ 1.3 แสนตัน และในภาพรวมการส่งออกสินค้าไก่ของไทยในปีนี้คาดจะส่งออกได้ 7.8 แสนตัน มูลค่าประมาณ 1.1 แสนล้านบาท
[/size]นายสุกิจ คงปิยาจารย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มฮงเส็งการทอ กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกเครื่องนุ่งห่ม(การ์เมนต์)ของไทยในไตรมาสแรกคาดจะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องไตรมาสแรกปี 2561 ตัวเลขส่งออกในหมวดเสื้อผ้ากีฬาจะพุ่งสูงขึ้น จะมีคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพราะจะมีเทศกาลแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2561 ที่ประเทศรัสเซีย จะทำให้ยอดส่งออกเสื้อผ้ากีฬา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 30-40 % ของมูลค่าการส่งออกเครื่องนุ่งห่มไทยในภาพรวมจะขยายตัวเพิ่มขึ้น
[/size]ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การส่งออกยานยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ในไตรมาสแรก รวมถึงครึ่งแรกของปีนี้ในแง่ปริมาณคาดจะยังส่งออกได้ต่อเนื่อง แต่ห่วงด้านมูลค่าที่อาจลดลง เพราะ 6 เดือนแรกปีที่แล้วไทยส่งออกรถ PPV(รถอเนกประสงค์)ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ และมีราคาสูงออกไปมาก แต่ในปีนี้ยังเป็นรถรุ่นเดิมๆ หากค่ายรถมีการส่งออกรถ PPV และรถปิกอัพรุ่นใหม่ๆ ออกไปในครึ่งปีหลัง การส่งออกจะขยายตัวดีขึ้น ในปีนี้ทางกลุ่มยังตั้งเป้าส่งออกที่ 1.2 ล้านคัน จากปีที่แล้วส่งออกได้ 1.18 ล้านคัน มีปัจจัยบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจและการค้าโลกดีขึ้น
[/size]จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,243 วันที่ 12 ? 15 มีนาคม พ.ศ. 2560
โดย ฐานเศรษฐกิจ
จับชีพจรส่งออกไทยไตรมาส1/60 ทิศทางบวก ปัจจัยเศรษฐกิจคู่ค้าหลักฟื้นตัว ราคาน้ำมัน-สินค้าเกษตรขยับ ?ข้าว-ยาง-ไก่?มั่นใจยอดโต เชื่อไตรมาส 2 ดีต่อเนื่อง การ์เมนต์จับตาไตรมาส4 ยอดพุ่งรับบอลโลก รถยนต์รอรุ่นใหม่เพิ่มความแรง
[/size]จากมูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนมกราคม 2560 ที่ส่งออกได้มูลค่า 1.70 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 8.8% โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 นับจากเดือนพฤศจิกายน 2559 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ระบุเป็นผลพวงเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา จีน และสหภาพยุโรป ต่างปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
[/size]ส่วนราคานํ้ามันดิบ ราคาสินค้าเกษตรสำคัญ และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับนํ้ามันเริ่มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดีทิศทางแนวโน้มการส่งออกในไตรมาสแรกของปีนี้ดีขึ้นจริงหรือไม่ ?ฐานเศรษฐกิจ?ได้ตรวจสอบผู้ประกอบการในหลายกลุ่มสินค้านายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในเดือนมกราคมปีนี้การส่งออกข้าวของไทยในเชิงปริมาณ และมูลค่าเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้วยังติดลบ เนื่องจากเดือนมกราคม 2559 มีข้าวที่ซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีที่ไทยทำสัญญากับจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ส่งมอบข้ามปีจากปลายปี 2558 ทำให้ตัวเลขเดือนมกราคมปีที่แล้วไทยส่งออกข้าวได้เป็นล้านตัน แต่มกราคมปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้ 8.2 แสนตัน ซึ่งถือเป็นระดับปกติและเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ คาดในเดือนกุมภาพันธ์ไทยจะส่งออกข้าวได้ประมาณ 8 แสนตัน หากส่งออกได้ระดับนี้โดยเฉลี่ยทุกเดือน มั่นใจไทยจะส่งออกข้าวในปีนี้ได้ 9.5-10 ล้านตัน(ปี 2559 ส่งออก 9.8 ล้านตัน)
[/size]?จากราคาข้าวส่งออกของไทยเวลานี้ใกล้เคียงคู่แข่งขัน ล่าสุดราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนามที่มีผลผลิตในฤดูกาลใหม่ออกมาราคาส่งออก(เอฟโอบี)เฉลี่ยที่ 360 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ขณะข้าวประเภทเดียวกันของไทยเฉลี่ยที่ 355 ดอลลาร์ต่อตัน ส่วนราคาข้าวนึ่งของไทยราคาสูงกว่าข้าวนึ่งอินเดียเพียง 5-10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน จะจูงใจคู่ค้าหันมาซื้อข้าวไทยมากขึ้นเพราะโดยคุณภาพแล้วของเราดีกว่า และหากกระทรวงพาณิชย์สามารถระบายข้าวในสต๊อกที่เหลืออีกประมาณ 6.5 ล้านตันได้หมดโดยเร็ว คาดราคาข้าวในตลาดโลกจะปรับฐานใหม่ ราคาจะสูงขึ้นกว่าเดิม จากที่ผ่านมาข้าวในสต๊อกรัฐบาลมีผลต่อราคาข้าวโลกไม่ขยับขึ้นมาก เพราะผู้ซื้อไม่เร่งซื้อเก็บสต๊อก?
[/size]นายหลักชัย กิตติพล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยางพาราไทย กล่าวว่า การส่งออกยางพาราของไทยในเดือนมกราคมขยายตัวเพิ่มขึ้นในเชิงมูลค่า 62.5% และเชิงปริมาณ เพิ่มขึ้น 3.8% เป็นผลจากผลผลิตยางขาดแคลน สวนทางกับความต้องการในตลาดโลกมีสูง ประกอบกับเวลานี้สถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ปรับตัวสูงขึ้น ฉุดให้สินค้ายางพาราปรับตัวสูงขึ้นตาม ล้อไปกับราคายางสังเคราะห์ที่เป็นผลพลอยได้จากน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น มั่นใจว่าในไตรมาสที่ 1 และ2 ของปีนี้การส่งออกยางพาราของไทยจะขยายตัวสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างแน่นอน และทั้งปีนี้การส่งออกยางพาราที่ใช้เป็นวัตถุดิบของไทยเชิงมูลค่าจะขยายตัวได้ 30-40% (ปี 2559 ไทยส่งออกยางพารา 1.55 แสนล้านบาท ) และในเชิงปริมาณจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% (ปี 2559 ส่งออก 3.6 ล้านตัน)
[/size]?เวลานี้ทุกตลาดเข้ามาซื้อยางไทยไม่ว่าจีน อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ยุโรป และล่าสุดจากราคาวัตถุดิบยางที่ปรับตัวสูงขึ้นหลายค่ายผู้ผลิตยางรถยนต์ได้ประกาศปรับขึ้นราคายางรถหลายประเทศในตลาดสหรัฐฯไปแล้วไม่เกิน 8% จากราคาเดิม มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2560 อย่างไรก็ดีราคายางพาราในประเทศคาดเฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 65-80 บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นลงตามดีมานด์-ซัพพลาย?
[/size]ด้านสินค้าไก่ นายประสิทธิ์ ฉลองชัยชาญ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไก่ของไทยในปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากปัจจัยที่หลายประเทศในภูมิภาคประสบปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก ล่าสุด พบการระบาดในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เกาหลีใต้ระงับการนำเข้าเนื้อไก่และไข่จากสหรัฐฯ ขณะที่ในเกาหลีใต้เองก็ประสบปัญหาไข้หวัดนกด้วยเช่นกัน ทำให้สินค้าไก่ของไทยสามารถส่งเข้าไปทดแทนในตลาดเกาหลีใต้ได้มากขึ้น
[/size]ในส่วนของซีพีเอฟคาดปีนี้จะส่งออกสินค้าไก่ได้ประมาณ 1.4-1.5 แสนตันจากปีที่แล้ว ส่งออกได้ประมาณ 1.3 แสนตัน และในภาพรวมการส่งออกสินค้าไก่ของไทยในปีนี้คาดจะส่งออกได้ 7.8 แสนตัน มูลค่าประมาณ 1.1 แสนล้านบาท
[/size]นายสุกิจ คงปิยาจารย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มฮงเส็งการทอ กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกเครื่องนุ่งห่ม(การ์เมนต์)ของไทยในไตรมาสแรกคาดจะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องไตรมาสแรกปี 2561 ตัวเลขส่งออกในหมวดเสื้อผ้ากีฬาจะพุ่งสูงขึ้น จะมีคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพราะจะมีเทศกาลแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2561 ที่ประเทศรัสเซีย จะทำให้ยอดส่งออกเสื้อผ้ากีฬา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 30-40 % ของมูลค่าการส่งออกเครื่องนุ่งห่มไทยในภาพรวมจะขยายตัวเพิ่มขึ้น
[/size]ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การส่งออกยานยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ในไตรมาสแรก รวมถึงครึ่งแรกของปีนี้ในแง่ปริมาณคาดจะยังส่งออกได้ต่อเนื่อง แต่ห่วงด้านมูลค่าที่อาจลดลง เพราะ 6 เดือนแรกปีที่แล้วไทยส่งออกรถ PPV(รถอเนกประสงค์)ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ และมีราคาสูงออกไปมาก แต่ในปีนี้ยังเป็นรถรุ่นเดิมๆ หากค่ายรถมีการส่งออกรถ PPV และรถปิกอัพรุ่นใหม่ๆ ออกไปในครึ่งปีหลัง การส่งออกจะขยายตัวดีขึ้น ในปีนี้ทางกลุ่มยังตั้งเป้าส่งออกที่ 1.2 ล้านคัน จากปีที่แล้วส่งออกได้ 1.18 ล้านคัน มีปัจจัยบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจและการค้าโลกดีขึ้น
[/size]จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,243 วันที่ 12 ? 15 มีนาคม พ.ศ. 2560