ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กันยายน 21, 2016, 01:45:54 PM »ทวงคืนผืนป่าท่าแซะ-ปะทิว แล้วเกือบ 7 พันไร่
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (20 ก.ย.) พ.ท.ดุสิต เกษรแก้ว นายทหารฝ่ายยุทธโยธา บก.ควบคุม มทบ.44 ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.11 (สากปาก) สนธิกำลังเข้าร่วมพิธี ?ทวงคืนผืนป่า? ดำเนินการรื้อถอนทำลายพืชผลอาสินที่มีการตรวจยึดดำเนินคดีไว้แล้วตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อ-สลุย บริเวณบ้านพละ หมู่ 3 ตำบลสลุย อ.ปะทิว จ.ชุมพร จำนวน 2 แปลง รวมพื้นที่ 242 ไร่ เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวกับอำเภอท่าแซะ ซึ่งส่วนใหญ่มีทั้งชาวบ้าน และนายทุนเข้าไปบุกรุกยึดครองปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน กล้วย และสับปะรด มีทั้งที่กำลังบุกรุกตัดถางจนเตียนโล่งเตรียมเพื่อปลูกใหม่ ที่ปลูกแล้วกำลังเติบโต และที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าฟันทำลายรื้อถอน และตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดกลับคืนให้แผ่นดิน พร้อมกับเตรียมเข้าดำเนินการปลูกป่าฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพสู่เดิมต่อไป
ด้าน นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอท่าแซะ เปิดเผยว่า ในส่วนของอำเภอท่าแซะ ได้ร่วมกับสำนักสนับสนุนและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11(สุราษฎร์ธานี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่สวนป่าโครงการฟื้นฟูผู้ประสบวาตภัยพายุ ไต้ฝุ่นเกย์ จำนวน 102 แปลง รวม 33,250 ไร่ ได้ถูกราษฎร และนายทุนเข้าบุกรุกในลักษณะตัดโค่นสวนป่าดังกล่าวโดยใช้เลื่อยยนต์ ตัดเผาตอไม้และกานต้นไม้ให้ยืนต้นตาย เพื่อทำการเกษตรปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน กาแฟ กล้วยเล็บมือนาง อายุระหว่าง 1-5 ปี ทั้งนี้ ช่วงระหว่างวันที่ 8-16 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินมาตรการตามคำสั่ง คสช.เข้าตรวจยึดทวงคืนผืนป่าดังกล่าวในท้องที่ตำบลสลุย ตำบลหงส์เจริญ ตำบลสองพี่น้อง จำนวน 21 แปลง รวมพื้นที่ 6,655 ไร่ และจะเดินหน้าตรวจยึดผืนป่าที่ถูกบุกรุกไปทั้งหมดกลับคืนมาให้แผ่นดิน ตามนโยบาย คสช.ต่อไป
โดย MGR Online
20 กันยายน 2559 15:40 น. (แก้ไขล่าสุด 20 กันยายน 2559 16:04 น.)
ชุมพร - มทบ.44 ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.11 (สากปาก) สนธิกำลังเข้ารื้อถอนทำลายพืชผลอาสินตรวจยึดดำเนินคดีไว้แล้วตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อ-สลุย บริเวณบ้านพละ หมู่ 3 ตำบลสลุย อ.ปะทิว จ.ชุมพร พื้นที่ 6,655 ไร่
20 กันยายน 2559 15:40 น. (แก้ไขล่าสุด 20 กันยายน 2559 16:04 น.)
ชุมพร - มทบ.44 ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.11 (สากปาก) สนธิกำลังเข้ารื้อถอนทำลายพืชผลอาสินตรวจยึดดำเนินคดีไว้แล้วตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อ-สลุย บริเวณบ้านพละ หมู่ 3 ตำบลสลุย อ.ปะทิว จ.ชุมพร พื้นที่ 6,655 ไร่
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (20 ก.ย.) พ.ท.ดุสิต เกษรแก้ว นายทหารฝ่ายยุทธโยธา บก.ควบคุม มทบ.44 ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.11 (สากปาก) สนธิกำลังเข้าร่วมพิธี ?ทวงคืนผืนป่า? ดำเนินการรื้อถอนทำลายพืชผลอาสินที่มีการตรวจยึดดำเนินคดีไว้แล้วตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อ-สลุย บริเวณบ้านพละ หมู่ 3 ตำบลสลุย อ.ปะทิว จ.ชุมพร จำนวน 2 แปลง รวมพื้นที่ 242 ไร่ เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวกับอำเภอท่าแซะ ซึ่งส่วนใหญ่มีทั้งชาวบ้าน และนายทุนเข้าไปบุกรุกยึดครองปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน กล้วย และสับปะรด มีทั้งที่กำลังบุกรุกตัดถางจนเตียนโล่งเตรียมเพื่อปลูกใหม่ ที่ปลูกแล้วกำลังเติบโต และที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าฟันทำลายรื้อถอน และตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดกลับคืนให้แผ่นดิน พร้อมกับเตรียมเข้าดำเนินการปลูกป่าฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพสู่เดิมต่อไป
ด้าน นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอท่าแซะ เปิดเผยว่า ในส่วนของอำเภอท่าแซะ ได้ร่วมกับสำนักสนับสนุนและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11(สุราษฎร์ธานี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่สวนป่าโครงการฟื้นฟูผู้ประสบวาตภัยพายุ ไต้ฝุ่นเกย์ จำนวน 102 แปลง รวม 33,250 ไร่ ได้ถูกราษฎร และนายทุนเข้าบุกรุกในลักษณะตัดโค่นสวนป่าดังกล่าวโดยใช้เลื่อยยนต์ ตัดเผาตอไม้และกานต้นไม้ให้ยืนต้นตาย เพื่อทำการเกษตรปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน กาแฟ กล้วยเล็บมือนาง อายุระหว่าง 1-5 ปี ทั้งนี้ ช่วงระหว่างวันที่ 8-16 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินมาตรการตามคำสั่ง คสช.เข้าตรวจยึดทวงคืนผืนป่าดังกล่าวในท้องที่ตำบลสลุย ตำบลหงส์เจริญ ตำบลสองพี่น้อง จำนวน 21 แปลง รวมพื้นที่ 6,655 ไร่ และจะเดินหน้าตรวจยึดผืนป่าที่ถูกบุกรุกไปทั้งหมดกลับคืนมาให้แผ่นดิน ตามนโยบาย คสช.ต่อไป