ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กันยายน 28, 2015, 11:00:59 AM »วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558
ปัจจัย | วิเคราะห์ |
1.สภาพภูมิอากาศ | - มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนกระจายเกือบทั่วไป และตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล ซึ่งส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง |
2.การใช้ยาง | - รายงานอุตสาหกรรมยางธรรมชาติของจีนและของโลกในช่วงปี 2557-2561 ระบุว่า ตลาดผู้ใช้ยางธรรมชาติทั่วโลกที่สำคัญ คือ จีน อินเดีย ทวีป ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน เป็นผู้ใช้รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยในปี 2557 มีการใช้ยางธรรมชาติถึง 4,160,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 13.1 มีสัดส่วนการใช้ถึงร้อยละ 39.1 ของปริมาณการใช้ทั้งหมดของโลก ซึ่งได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของอุตสาหกรรมรถยนต์และยางล้อในจีน ปริมาณการใช้ยางธรรมชาติของจีนจะยังคงเติบโตขึ้นอีก และคาดว่าจะแตะระดับ 6,791,000 ตันในปี 2561 |
3.เศรษฐกิจโลก | - กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี อันเนื่องมาจากการปรับตัวลดลงของราคาพลังงาน ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่นเผชิญกับอุปสรรคมากขึ้นในการจัดการกับภาวะเงินฝืดภายใน ประเทศ - รัฐบาลญี่ปุ่นปรับลดการประเมินเศรษฐกิจญี่ปุ่นในเดือนกันยายน อันเนื่องจากการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนที่ซบเซาลง อย่างไรก็ตามรัฐบาลหลีกเลี่ยงที่จะแสดงมุมมองว่าอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นั้นย่ำแย่หรือไม่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลมีมุมมองที่ค่อนข้างเป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ญี่ปุ่น - สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส ระบุว่าผู้บริโภคของฝรั่งเศสมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจและการ เงินในเดือนกันยายน ขณะที่มีความวิตกลดน้อยลงเกี่ยวกับการว่างงาน ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 3 จุด ในเดือนกันยายน สู่ระดับ 97 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 หรือในรอบ 8 ปี - ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ขั้นสุดท้ายประจำเดือนกันยายน ลดลงสู่ระดับ 87.2 จากระดับ 91.9 ในเดือนสิงหาคม ส่วนดัชนีภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันลดลงแตะ 101.2 ในเดือนกันยายน จาก 105.1 ในเดือนสิงหาคม - บริษัทมาร์กิต อิโคโนมิกส์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.6 ในเดือนกันยายน จากระดับ 56.1 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขั้นสุดท้ายสำหรับช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 3.9 โดยสูงกว่าตัวเลขที่ประเมินไว้ก่อนหน้า ที่ระดับร้อยละ 3.7 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งขณะเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 |
4. อัตราแลกเปลี่ยน | - เงินบาทอยู่ที่ 36.24 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่า 0.02 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ - เงินเยนอยู่ที่ 120.39 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่า 0.32 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ - ประธานาธิบดีจีนให้คำมั่นว่าจีนจะพยายามหลีกเลี่ยงการปรับลดค่าเงินหยวนลง อีก ส่วนธนาคารกลางจีนแถลงว่าจะรักษานโยบายการเงินที่มีเสถียรภาพ และมีความต่อเนื่อง โดยจะดำเนินนโยบายการเงินที่มีความระมัดระวังและมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการ ผ่อนคลายและการคุมเข้มนโยบาย |
5. ราคาน้ำมัน | - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปิดตลาดที่ 45.7 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.79 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป - สแตนดาร์ด แอนด์พัวร์ (S&P) ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์ในปีนี้สู่ระดับ 50 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมที่ 55 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมัน WIT ในปีนี้สู่ระดับ 45 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมที่ 50 ดอลล่าร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังได้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเรนท์ในปีหน้าสู่ระดับ 55 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ WIT ที่ระดับ 50 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล |
6. การเก็งกำไร | - ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ 159.7 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.9 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 169.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.7 เยนต่อกิโลกรัม - ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 132.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม |
7. ข่าว | - ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ประเมินว่า เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ภายในสิ้นปีนี้ |
8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ | - ราคายางปรับขึ้นได้เล็กน้อย เพราะปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้อต่อการกรีดยาง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามตลาดต่างประเทศค่อนข้างเงียบ ขายออกยาก โดยเฉพาะจีนเตรียมหยุดยาวเนื่องในวันชาติ |
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา