ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กันยายน 16, 2015, 07:58:04 AM »

โวย รง.ยางส่งกลิ่น ไล่ไปอยู่นอกชุมชน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 15 ก.ย. 2558 08:18


 

 
 เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ย. ชาวบ้านหมู่2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา กว่า 70 คน ได้รวมตัวกันที่ลานขนถ่ายเศษยางพาราหรือขี้ยาง บริเวณถนนสายประปา ตรงข้ามค่าย ตชด. ธนพัฒน์ 437 หลังจากเดือดร้อนส่งกลิ่นรบกวนจนชาวบ้านไม่เป็นอันหลับนอน จากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้ไปร้องเรียนนายทวีวุฒิ สังข์ศิริ นายอำเภอสะเดา และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสำนักขาม ให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ต่อมานายทวีวุฒิ พร้อมด้วย จนท.เทศบาลตำบลสำนักขาม ตัวแทนชาวบ้านและผู้ประกอบการร่วมประชุมที่สำนักงานเทศบาลตำบลสำนักขาม เพื่อหาข้อยุติ ที่ประชุมได้ยืดเวลาให้ผู้ประกอบการหาทางเคลื่อนย้ายออกไปภายในเวลา 30 วัน โดยเทศบาลจะตรวจสอบว่ากิจการใดที่ก่อให้เกิดอันตรายมลภาวะต่อสุขภาพว่ามีใบ อนุญาตหรือไม่ แต่ต้องให้โอกาสเจ้าของกิจการยื่นอุทธรณ์ พร้อมประสาน สนง.สิ่งแวดล้อมที่ 16 สงขลา มาตรวจสอบว่ามีมลพิษหรือไม่
นายวีระศักดิ์ สงวนสิน ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า ขอเรียกร้องไปยังผู้ประกอบการ 3 ข้อคือ 1.ยุติการดำเนินการขนถ่ายเศษยางพาราสดโดยทันที 2. ให้ย้ายกิจการห่างจากชุมชนไม่น้อยกว่า 5 กม.3.ห้ามไม่ให้โรงงานหรือกิจการใดๆที่มีมลภาวะอยู่ในตัวเมืองอย่างเด็ดขาด พร้อมกับขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน เพราะนอกจากจะส่งผลต่อมลภาวะทางอากาศแล้ว รถขนเศษยางยังทำให้ถนนชำรุดเสียหาย สร้างฝุ่นละอองแก่บ้านเมือง
ขณะที่นายเอกชัย ด้วงชาย ตัวแทนผู้ประกอบการชี้แจงว่า ได้ประกอบกิจการขนถ่ายเศษยางพาราส่งไปประเทศมาเลเซียมานานแล้ว ก่อนหน้านี้บริเวณนี้ไม่มีคนอยู่อาศัยและอยู่ห่างไกลจากชุมชน แต่ปัจจุบันชุมชนบ้านด่านนอกหมู่ที่ 2 ได้ขยายตัว มีหมู่บ้านสร้างขึ้นรอบๆโกดังเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันมีบ้านเรือนค่อนข้างหนาแน่น แต่ในซอยที่อยู่ใกล้กับโกดังมีเพียงไม่กี่หลังที่ได้รับผลกระทบ กลายเป็นว่าชุมชนมารุกไล่ผู้ประกอบการที่เข้ามาอยู่ก่อน แต่ก็พร้อมที่จะหาทางออกร่วมกันเพื่อชุมชน.