ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กันยายน 01, 2015, 04:03:19 PM »รองโฆษกรัฐบาล เผย ฟิลิปปินส์ สนใจสินค้าข้าว ยางพาราจากไทย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -1 ก.ย. 58 15:35 น.
พล.ต วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงการเยือนฟิลิปปินส์ให้ครม.ทราบว่า ได้หารือถึงการค้าการลงทุนซึ่งฟิลิปปินส์มีความสนใจสินค้าเกษตรทั้งข้าว ยางพารา เป็นต้น และได้หารือถึงเรื่องความมั่นคงของประเทศการต่อต้านการก่อการร้าย การบริหารจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังได้พูดถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษมีการเชิญชวนให้ฟิลิปปินส์เข้ามาดำเนินการในเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย
สำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนนญยังเป็นไปตามโรดแมป ส่วนความกังวลว่าการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์จะเป็นรัฐซ้อนรัฐ และเอื้อประโยชน์ต่างๆนั้นยืนยันว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน เพราะคณะกรรมการดังกล่าวจะมีอายุเพียง 5 ปีเท่านั้น และตั้งขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการเข้ามาแก้ไขข้อติดขัดต่างๆ
ขณะที่มีความกังวลว่า คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายโครงการของรัฐ หรือ คตร.นั้นจะเป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุนภายใต้งบประมาณ 50 ล้านบาท นั้นยืนยันว่าบทบาทคตร.ไม่ใช่การเข้าไปตรวจสอบ เป็นเพียงการเร่งรัดและติดตามการทำงานเท่านั้น และยืนยันไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซง แต่คตร.ยังช่วยให้การเบิกจ่ายเป็นไปด้วยความรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นายกฯได้สั่งการเรื่องน้ำ แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะมีฝนตกในหลายพื้นที่ แต่ขณะนี้ปริมาณสะสมน้ำฝนยังมีระดับต่ำกว่าปกติ อย่างไรก็ตามยังให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องภัยแล้ง และยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป แม้จะยังมีปริมาณฝนตกก็ตาม และมีการวางแผนบริหารจัดการ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -1 ก.ย. 58 15:35 น.
พล.ต วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงการเยือนฟิลิปปินส์ให้ครม.ทราบว่า ได้หารือถึงการค้าการลงทุนซึ่งฟิลิปปินส์มีความสนใจสินค้าเกษตรทั้งข้าว ยางพารา เป็นต้น และได้หารือถึงเรื่องความมั่นคงของประเทศการต่อต้านการก่อการร้าย การบริหารจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังได้พูดถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษมีการเชิญชวนให้ฟิลิปปินส์เข้ามาดำเนินการในเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย
สำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนนญยังเป็นไปตามโรดแมป ส่วนความกังวลว่าการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์จะเป็นรัฐซ้อนรัฐ และเอื้อประโยชน์ต่างๆนั้นยืนยันว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน เพราะคณะกรรมการดังกล่าวจะมีอายุเพียง 5 ปีเท่านั้น และตั้งขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการเข้ามาแก้ไขข้อติดขัดต่างๆ
ขณะที่มีความกังวลว่า คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายโครงการของรัฐ หรือ คตร.นั้นจะเป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุนภายใต้งบประมาณ 50 ล้านบาท นั้นยืนยันว่าบทบาทคตร.ไม่ใช่การเข้าไปตรวจสอบ เป็นเพียงการเร่งรัดและติดตามการทำงานเท่านั้น และยืนยันไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซง แต่คตร.ยังช่วยให้การเบิกจ่ายเป็นไปด้วยความรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นายกฯได้สั่งการเรื่องน้ำ แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะมีฝนตกในหลายพื้นที่ แต่ขณะนี้ปริมาณสะสมน้ำฝนยังมีระดับต่ำกว่าปกติ อย่างไรก็ตามยังให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องภัยแล้ง และยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป แม้จะยังมีปริมาณฝนตกก็ตาม และมีการวางแผนบริหารจัดการ
เรียบเรียง โดย อิทธิพล พันธ์ธรรม
อีเมล์. reporter@efinancethai.com อนุมัติ โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน