วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558
[/t] วิเคราะห์ | 1. สภาพภูมิอากาศ | - บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกมีฝนร้อนละ 60 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง | 2. การใช้ยาง | - บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นประสบกับความยากลำบากในการ กระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความลังเลที่จะซื้อรถยนต์ใหม่นับตั้งแต่การปรับขึ้น ภาษีการบริโภคเมื่อเดือนเมษายน 2557 และภาษีรถยนต์ขนาดเล็กในปีนี้ ทั้งนี้การผลิตรถยนต์ภายในประเทศของโตโยต้าในเดือนกรกฎาคม ลดลงร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบรายปี แตะ 297,492 คัน ขณะที่ฮอนด้ามีการผลิตลดลงร้อยละ 27.9 แตะที่ 61,244 คัน ขณะที่โตโยต้ามียอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นทั้งหมด 137,366 คัน ซึ่งลดลงร้อยละ 6.6 ขณะที่การส่งออกลดลงร้อยละ 12.6 แตะที่ 153,889 คัน | 3.เศรษฐกิจโลก | - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแดตแลนตา เปิดเผยว่าแบบจำลองการคาดการณ์ GDPNOW แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 1.2 ในไตรมาส 3 การขยายตัวที่ระดับร้อยละ 1.2 ถือว่าต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับร้อยละ 1.4 โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภคในภาคบริการในเดือน กรกฎาคม - มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าสู่ระดับร้อยละ 2.8 เทียบกับระดับร้อยละ 3.0 ชี้เป็นตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้มูดี้ส์ - ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของสหรัฐฯ ในปีหน้าที่ระดับร้อยละ 2.6 จากเดิมที่ร้อยละ 2.8 เพราะได้รับผลกระทบจาการแข็งค่าของดอลลาร์
- มูดี้ส์คงคาดการณ์การขยายตัวของยูโรโซนในปีหน้าที่ระดับร้อยละ 2.0 แม้เผชิญวิกฤตการณ์หนี้กรีซ
- ปรับลดคาดการณ์ GDP จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จากการคาดการณ์ถึงภาวะซบเซาของการส่งออก
- ผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขึ้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐฯประจำเดือนสิงหาคม ลดลงมากกว่าคาดที่ระดับ 91.9 โดยต่ำกว่า 92.9 ซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นของเดือนสิงหาคม และต่ำกว่าระดับ 93.1 ของเดือนกรกฎาคม อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลต่ออภาวะผันผวนในตลาดหุ้นซึ่งเกี่ยวกับภาวะ เศรษฐกิจจีน - คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นในยูโรโซน พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ในเดือนสิงหาคม จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจรายเดือนของ EC ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 104.2 ในเดือนสิงหาคม จาก 104.0 ในเดือนกรกฎาคม - รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของญี่ปุ่นทรงตัวในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้นเป็นเวลา 25 เดือนติดต่อกัน - สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน รายงานว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนในเดือนกรกฎาคม ปรับลงร้อยละ 2.9 เทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงที่รุนแรงมากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ที่ขยับลงเพียงร้อยละ 0.3 - ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเงิน 6.0 หมื่นล้านหยวนเข้าสู่ระบบของธนาคารเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผ่านปฏิบัติการอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้น - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 ในเดือนกรฏาคม ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 | 4. อัตราแลกเปลี่ยน | - เงินบาทอยู่ที่ 35.87 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่า 0.16 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ - เงินเยนอยู่ที่ 121.19 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่า 0.05 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ | 5. ราคาน้ำมัน | - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดตลาดที่ 45.22 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.66 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่สดใส เมื่อพิจารณาจาก GDP ไตรมาส 2 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ - ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 2.49 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 50.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล | 6. การเก็งกำไร | - ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนกันยายน 2558 อยู่ที่ 167.3 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 1.8 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนมกราคม 2559 อยู่ที่ 176.5 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 0.6 เยนต่อกิโลกรัม - ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 129.6 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.3 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม | 7. ข่าว | - มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส คาดการณ์ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยคาดว่าราคาบ้านและยอดขายบ้านจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้จำนวนบ้านค้างสต๊อกปรับตัวลดลง โดยจากการสำรวจเมืองขนาดกลางและขนาดใหญ่ จำนวน 70 เมืองในเดือนกรกฎาคม พบว่าราคาบ้านใหม่ใน 31 เมือง ได้ปรับตัวสูงขึ้นเทียบกับ 27 เมืองในเดือนก่อนหน้า | 8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ | - ราคายางน่าจะทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงมาก เพราะในระยะนี้ยังคงซื้อเกินราคากันอย่างต่อเนื่องในสภาพที่ผู้ประกอบการ หลายรายขาดแคลนวัตถุดิบ ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังคงเงียบทำให้ขายออกยาก | แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ ๆ ในทิศทางเดียวกับตลาดโตเกียว โดยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นและเงินบาทอ่อนค่า ประกอบกับการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจค่อนข้างผันผวน ส่วนปัจจัยลบมาจากนักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนซึ่ง เป็นผู้ซื้อยางรายใหญ่ของโลก
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา |
[/td][/tr][/table]