ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 04:39:56 PM »

กกร.ชง3ประเด็นแก้เศรษฐกิจชะลอ


  นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ ส.อ.ท. ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศให้กับ นายสมคิด ในการปาฐกถาพิเศษนโยบายเศรษฐกิจและทิศทางประเทศไทย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 ส.ค. นี้


 สำหรับแนวทางเร่งด่วนที่ ส.อ.ท. จะนำเสนอ จะประกอบด้วย 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ 1.การยกระดับราคาสินค้าเกษตรให้เพิ่มขึ้น ซึ่งภาครัฐควรเข้าไปอุดหนุนสินค้าเกษตรที่สำคัญ โดยให้ทำเป็นมาตรการชั่วคราว เพื่อดันราคาสินค้าเกษตร


 2. การแก้ปัญหาการส่งออก โดยรัฐบาลควรจะแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก หรือทีมไทยแลนด์โดยเร็ว เนื่องจากปัญหาการส่งออกขณะนี้มีความรุนแรง และควรเร่งแก้ปัญหาการค้าชายแดนเนื่องจากขณะนี้สินค้ายังติดค้างด่านหลายวัน


 "ผู้ประกอบการมีความเป็นห่วงปัญหาฟองสบู่เศรษฐกิจจีน เพราะว่ามีขนาดใหญ่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยแนวทางการรองรับควรจะเร่งเปิดตลาดการค้าไปยังกลุ่มประเทศCLMVให้ได้มาก ที่สุด ระยะยาวควรจะลดสัดส่วนการพึ่งพารายได้จากการส่งออกลงจาก 70% ให้ลดลงเหลือประมาณ 50% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ทำให้เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งไม่ผันผวนไปตามสถานการณ์ของโลก และหากเพิ่มรายได้จากการบริโภคภายในประเทศ และการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ไทยพึ่งพาตลาดส่งออกน้อยลง"นายสุพันธุ์ กล่าว


 3. การแก้ไขปัญหาเอสเอ็มอี โดยเร่งปรับโครงสร้างภาษีเอสเอ็มอีให้มีอัตราที่เหมาะสม ซึ่ง ส.อ.ท.เสนอการจัดเก็บภาษีเอสเอ็มอีแบบขั้นบันได


 "ซิงเกอร์" จี้รัฐอัด "ยาแรง"กู้ศก.
 นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ ประเทศไทยจำกัด(มหาชน) กล่าวว่าต้องการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ใช้"ยาแรง"กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดงบประมาณเข้าสู่ระบบให้เร็วขึ้น เพื่อให้เกิดการจ้างงานรวมทั้งเร่งทำให้ภาคการส่งออกเป็นบวกจากที่ติดลบมา โดยตลอด


 นอกจากนี้ควรเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน และบริหารความคาดหวังของนักธุรกิจที่มีค่อนข้างสูง ซึ่งครม.ชุดใหม่นี้เห็นว่ามีเอกภาพ ภายใต้การนำของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเชื่อว่าจะสามารถแก้ไข ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง


 อย่างไรก็ตาม การเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 4-5 เดือนสุดท้ายยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เห็นผลการฟื้นตัวหรือเติบโต ได้ภายในปีนี้ เพราะกว่าจะกำหนดนโยบายและผลักดันให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมต้องใช้เวลา ปีนี้จึงเป็นปีรักษาตัวให้เศรษฐกิจทรงๆประคองไม่ให้เศรษฐกิจแย่ไปกว่านี้ ส่วนการฟื้นตัวน่าจะเห็นในปีหน้า
 "ค้าปลีก-ส่ง"เร่งรัฐดูแลรากหญ้า
 ด้านนายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า ต้องการให้ครม.ชุดใหม่ เร่งดูแลเศรษฐกิจในระดับฐานราก เพื่อให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้นมาจับจ่ายใช้สอย เพราะปีนี้กลุ่มประชากรฐานรากเผชิญปัจจัยลบค่อนข้างมาก จากราคาสินค้าเกษตรทั้งข้าว ยางพารา ตกต่ำ ภัยแล้งซ้ำเติม


 "ครม.เศรษฐกิจใหม่มา น่าจะประคองเศรษฐกิจปีนี้ให้ทรงตัว หรืออาจจะดีขึ้นเล็กน้อย เพราะคนที่เข้ามาเคยมีผลงานดูแลคนในระดับล่างมาก่อน"


 นอกจากนี้ ครม.ชุดใหม่ ควรเข้าไปดูแลร้านค้ารายเล็ก ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้มีต้นทุนการผลิตและจำหน่ายลดลง รวมถึงมีช่องทางการจำหน่ายสินค้า โมเดลคล้ายกับล็อกซ์เล่ย์ ดีเคเอสเอช และเครือสหพัฒน์ ทำหน้าที่ทั้งการตลาดให้ผู้บริโภครู้จักสินค้า ขนส่ง กระจายสินค้า เป็นต้น


 ตั้ง"ไทยยั่งยืน"ลดต้นทุนเอสเอ็มอี
 ทั้งนี้เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ สมาคมผู้ค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ได้ทดลองตั้งบริษัท ไทยยั่งยืน (2015) จำกัด เพื่อเป็นโมเดลในการลดต้นทุนให้กับเอสเอ็มอี เช่น เดิมผู้ประกอบการ 20 บริษัท จะต้องมีทีมขนส่ง กระจายสินค้า ทีมการตลาด 20 คน เมื่อรวมกันให้บริษัทไทยยั่งยืนดำเนินการ ก็จะมีทีมขาย ทีมการตลาด ขนส่ง คลังสินค้าเหลือเพียง 1 ทีม จะประหยัดต้นทุน ได้จำนวนมาก--จบ--
     กรุงเทพธุรกิจ (Th)