ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: สิงหาคม 18, 2015, 02:32:11 PM »


วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่  18  สิงหาคม  พ.ศ. 2558
ปัจจัย[/t][/t] [/t]

วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้อ่อนกำลังลง   ทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อยลง โดยภาคใต้มีฝนร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง
 
2. การใช้ยาง
 
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า   สต๊อคสินค้าคงคลังยางแผ่นดิบ (Crude Rubber) ณ ท่าเรือญี่ปุ่น วันที่ 31 กรกฎาคม 2558 มีจำนวน 16,241   ตัน เพิ่มขึ้น 2,509 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.27 จากระดับ 13,732 ตัน เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2558
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาส่งออกยางจำนวน   61,969 ตัน ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 47.0 จากจำนวน 42,189 ตัน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
3. เศรษฐกิจโลก
 
- อินเดียประสบปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) พุ่งสูงขึ้นเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจอินเดียอาจจะไม่ขยายตัวได้ดีเท่าที่คาดการณ์ไว้ บ่งชี้ว่าอินเดียยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2551 โดยธนาคารโลกเปิดเผยว่าอัตราส่วนหนี้เสียธนาคารพาณิชย์ในอินเดียเมื่อเดือน ธันวาคมปีก่อนสูงถึงร้อยละ 4.3   เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ถึง 2 เท่า และคาดว่าอัตราส่วนหนี้เสียของปีนี้จะพุ่งขึ้นแตะร้อยละ 4.5
- ธนาคารกลางเยอรมันรายงานว่า ภาวะเศรษฐกิจกำลังบ่งชี้ว่าเยอรมันจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในครึ่งหลังของปี นี้   โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศและการส่งออก รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขซึ่งแสดงว่าเยอรมันมีการเติบ โตร้อยละ   0.4 ในไตรมาส 2 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.5
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า การส่งออกของยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.827 แสนล้านยูโรในเดือนมิถุนายน บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงได้อานิสงค์จากยูโรโซนที่อ่อนค่าลง โดยระบุว่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ   (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่าดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมทรุดตัวในเดือนสิงหาคม แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 หลังจากสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคม โดยอยู่ที่ระดับ -14.92 ในเดือนสิงหาคม จาก 3.86 ในเดือนกรกฎาคม เพราะได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของคำสั่งซื้อใหม่ และยอดส่งออก
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนกำลังปรับตัวสู่การขยายตัวที่มั่นคงและยั่งยืนมากขึ้นแม้จะชะลอ ตัวลง พร้อมคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้จะชะลอตัวลงแตะ 6.8 หลังการลงทุนชะลอตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์
- รัฐมนตรีเศรษฐกิจและนโยบายคลังของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 หดตัวลงนั้น สาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัจจัยชั่วคราว ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวของยอดส่งออกและการ อุปโภคบริโภค   และคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มฟื้นตัวในระดับปานกลาง
- นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า จีนมีแนวโน้มบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจรายปีที่ประมาณร้อยละ 7.0 ขณะที่เจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศระบุว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้ม ขยายตัวร้อยละ 6.8
 
4. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 35.53 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.20   บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 124.48 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง   0.09 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางจีนได้แสดงความเชื่อมั่นว่า นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่จีนกำหนดครั้งใหม่นี้ จะช่วยลดความผันผวนของค่าเงินหยวน และจะทำให้เงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในอนาคต
- ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียเปิดเผยว่า เอเซียเตรียมพร้อมรับมือกับเงินหยวนของจีนซึ่งมีบทบาทในระดับสากลหรือระดับ โลกมากขึ้น   โดยจากเดิมเป็นสกุลเงินสำหรับการค้า แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นสกุลเงินสำหรับการลงทุนนั้นยังมีบทบาทที่สำคัญใน การเป็นเงินทุนสำรองซึ่งมีนัยสำคัญระดับโลก
 
5. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนกันยายนปิดตลาดที่ 41.87 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.63 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานที่ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ   (GDP) ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส นอกจากนี้ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันล้นตลาดยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์   (Brent)   ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนกันยายน ปิดที่ 48.78ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.45 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
 
6. การเก็งกำไร
 
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนกันยายน อยู่ที่ 182.6 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง   0.2 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนมกราคม 2559 อยู่ที่ 188.0 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 2.2 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 142.3 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 3.4   เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติสหรัฐฯ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้นในเดือนสิงหาคม สู่ระดับ 61.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน   2548 หรือในรอบเกือบ 10 ปี บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ
- นายกรัฐมนตรีเยอรมันแสดงความเชื่อมั่นว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)   จะร่วมให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 3 แก่กรีซ และส่งสัญญาณว่าจะพิจารณาผ่อนปรนเรื่องหนี้สินกรีซ เพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือดังกล่าวได้
 
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ   ๆ เพราะยังมีแรงหนุนจากผู้ประกอบการบางรายยังมีความต้องการซื้อ เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบ ขณะที่ผู้ประกอบการกล่าวว่าไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้ และไม่มีใครเชื่อว่าราคาจะลดลงถึงระดับนี้ เพราะปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยมาก ทำให้ผู้ซื้อไม่กล้าซื้อเพราะกลัวราคาจะลดลงอีก
 
   ?แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวที่ปรับตัวลดลงแตะระดับ ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน และราคาน้ำมันทำสถิติต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับ
 การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นผู้ใช้ยางอันดับหนึ่งของโลก รวมทั้งสภาพอากาศเริ่มดีขึ้นซึ่งเอื้อต่อการกรีดยาง?

 



ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา