ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: สิงหาคม 17, 2015, 02:33:01 PM »ชาวนาโยงแห่เพาะเห็ดฟางขาย หนีราคายางตกต่ำ
ชาวนาโยง จ.ตรัง ดิ้นสู้ราคายางพาราตกต่ำ แห่เพาะเห็ดฟางจากทลายปาล์มน้ำมันส่งขาย สร้างรายได้ทดแทนยางพาราได้เป็นอย่างดี
ที่ตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ชาวบ้านตำบลนาโยงเหนือ ซึ่งทั้งหมดประกอบอาชีพหลักคือ ทำสวนยางพารา แต่ขณะนี้ยางพารามีราคาตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 40 บาทเศษ ประกอบกับเป็นช่วงฤดุมรสุมได้เกิดฝนตกลงมาบ่อย ทำให้ไม่สามารถกรีดยางพาราเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ บางรายถึงขนาดเลิกกรีดยางพารามาแล้วชั่วคราว โดยต่างหันมาเพาะเห็ดฟาง จากทลายปาล์มน้ำมันส่งขาย
นางอำไพ แสงอาทิตย์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 7 ต.นาโยงเหนือ ซึ่งมีอาชีพเพาะเห็ดฟางขาย และเป็นแม่ค้าคนกลาง รับซื้อเห็ดฟางจากเพื่อนบ้านไปจำหน่าย กล่าวว่า สาเหตุที่หันมาเพาะเห็ดฟางในสวนยางพาราขาย เพราะปัจจุบันนี้มีรายได้จากการกรีดยางอย่างเดียว ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ประกอบกับในพื้นที่เกิดฝนตกตลอดเวลา ทำให้กรีดยางพาราไม่ได้ จึงไม่สามารถอยู่ได้ จึงต้องหาอาชีพเสริมด้วยการเพาะเห็ดฟางจากทลายปาล์มน้ำมันส่งขาย เพราะเมื่อลงทุนทำไปแล้ว ฝนตกแดดออกก็สามารถเก็บขายได้
โดยต้นทุนก็ไม่มากและให้ผลผลิตเร็ว แรกเริ่มลงทุนไปซื้อทลายปาล์มน้ำมันประมาณ 5,700 บาท ต่อรถ รวมทั้งเชื้อเห็ดจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ในราคาก้อนละ 21 บาท ,ซื้อผ้ายางมาคลุม ทำโครงหลังคาโค้งมนสำหรับคลุมผ้ายางและใส่ระยะเวลาประมาณ 11 ? 15 วัน ก็สามารถเก็บเห็ดฝางขายได้แล้ว ราคากิโลกรัมละ 65 ? 70 บาท โดยผลผลิตที่เก็บได้ตกคืนละประมาณ 2,000 ? 3,000 บาท เป็นเวลานานนับเดือน หรือจนกว่าจะหมดเชื้อเห็ด
โดยของตนเองเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เก็บได้ครั้งละประมาณ 10 ? 40 กิโลกรัมต่อครั้ง หรือขึ้นอยู่กับจำนวนเชื้อที่วางไว้ โดยในพื้นที่ตำบลนาโยงเหนือพบว่ามีชาวสวนยางพาราหันมาเพาะเห็ดฟางจากทลาย ปาล์มน้ำมันกันเป็นจำนวนมาก ขณะนี้มีทั้งหมด 16 ราย และยังมีอีกหลายรายกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมดิน เตรียมสั่งซื้อเชื้อ เพื่อนำมาเพาะขายกัน เพราะเห็นว่ารายได้ดีทดแทนรายางพาราที่แต่ละครอบครัวไม่สามารถรอราคา กระเตื้องขึ้นได้ และตลาดรับซื้อก็เป็นพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ยังมีความต้องการอีกมาก ยังไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายให้ลูกค้า
ด้านนายอาคม เซงย่อง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 5 ต.นาโยงเหนือ กล่าวว่า ตนเองหยุดกรีดยางพาราชั่วคราว เพราะได้ไม่คุ้มค่าเหนื่อยเนื่องจากราคายางพาราตก จึงหันมาเพาะเห็ดฟางขายในพื้นที่สวนยางประมาณ 6 ไร่ ก็ได้ทยอยเพาะเห็ดลงไปเรื่อยๆ ต้นทุนต่ำ ทำได้สะดวก ใช้เวลาไม่มาก ได้กำไรสูง
สำหรับขึ้นตอนการเพาะเห็ดนางฟางจากทลายปาล์มน้ำมันทำให้ง่าย ลงทุนน้อยใช้เวลาไม่กี่วันก็สามารถเก็บดอกส่งขายได้ แค่เตรียมดินในบริเวณพื้นที่ว่างสวนยางพาราหรือข้างบ้าน หรือภายในสวนผลไม้, ทำร่องขุดดินยาวประมาณ 4 เมตร หรือ 7 เมตร ,นำทลายปาล์มน้ำมันที่แช่น้ำแล้วมาวาง และใช้น้ำฉีดล้างความสะอาด เพื่อเอาคราบน้ำมันที่ติดมากับทลายปาล์มน้ำมันออกไปให้หมด
เพราะถ้าตกค้างอาจทำให้เห็ดเน่าเสียเป็นเชื้อรา จากนั้นนำเชื้อที่ซื้อมามาย่อยสลายแล้วนำไปโรยบนทลายปาล์มน้ำมันบนร่อง พรมน้ำให้ชุ่มแล้วนำผ้ายางปิดคลุมทับไว้ประมาณ 3 วัน จากนั้นจึงเปิดผ้าบยางออกแล้วขึ้นโครงไม้ไผ่ทำเป็นโค้งมนคลุมผ้าใบ เพื่อรักษาอุณหภูมิ ประมาณ 11 ? 15 วัน ก็สามารถเก็บดอกขายได้แล้ว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
ชาวนาโยง จ.ตรัง ดิ้นสู้ราคายางพาราตกต่ำ แห่เพาะเห็ดฟางจากทลายปาล์มน้ำมันส่งขาย สร้างรายได้ทดแทนยางพาราได้เป็นอย่างดี
ที่ตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ชาวบ้านตำบลนาโยงเหนือ ซึ่งทั้งหมดประกอบอาชีพหลักคือ ทำสวนยางพารา แต่ขณะนี้ยางพารามีราคาตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 40 บาทเศษ ประกอบกับเป็นช่วงฤดุมรสุมได้เกิดฝนตกลงมาบ่อย ทำให้ไม่สามารถกรีดยางพาราเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ บางรายถึงขนาดเลิกกรีดยางพารามาแล้วชั่วคราว โดยต่างหันมาเพาะเห็ดฟาง จากทลายปาล์มน้ำมันส่งขาย
นางอำไพ แสงอาทิตย์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 7 ต.นาโยงเหนือ ซึ่งมีอาชีพเพาะเห็ดฟางขาย และเป็นแม่ค้าคนกลาง รับซื้อเห็ดฟางจากเพื่อนบ้านไปจำหน่าย กล่าวว่า สาเหตุที่หันมาเพาะเห็ดฟางในสวนยางพาราขาย เพราะปัจจุบันนี้มีรายได้จากการกรีดยางอย่างเดียว ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ประกอบกับในพื้นที่เกิดฝนตกตลอดเวลา ทำให้กรีดยางพาราไม่ได้ จึงไม่สามารถอยู่ได้ จึงต้องหาอาชีพเสริมด้วยการเพาะเห็ดฟางจากทลายปาล์มน้ำมันส่งขาย เพราะเมื่อลงทุนทำไปแล้ว ฝนตกแดดออกก็สามารถเก็บขายได้
โดยต้นทุนก็ไม่มากและให้ผลผลิตเร็ว แรกเริ่มลงทุนไปซื้อทลายปาล์มน้ำมันประมาณ 5,700 บาท ต่อรถ รวมทั้งเชื้อเห็ดจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ในราคาก้อนละ 21 บาท ,ซื้อผ้ายางมาคลุม ทำโครงหลังคาโค้งมนสำหรับคลุมผ้ายางและใส่ระยะเวลาประมาณ 11 ? 15 วัน ก็สามารถเก็บเห็ดฝางขายได้แล้ว ราคากิโลกรัมละ 65 ? 70 บาท โดยผลผลิตที่เก็บได้ตกคืนละประมาณ 2,000 ? 3,000 บาท เป็นเวลานานนับเดือน หรือจนกว่าจะหมดเชื้อเห็ด
โดยของตนเองเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เก็บได้ครั้งละประมาณ 10 ? 40 กิโลกรัมต่อครั้ง หรือขึ้นอยู่กับจำนวนเชื้อที่วางไว้ โดยในพื้นที่ตำบลนาโยงเหนือพบว่ามีชาวสวนยางพาราหันมาเพาะเห็ดฟางจากทลาย ปาล์มน้ำมันกันเป็นจำนวนมาก ขณะนี้มีทั้งหมด 16 ราย และยังมีอีกหลายรายกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมดิน เตรียมสั่งซื้อเชื้อ เพื่อนำมาเพาะขายกัน เพราะเห็นว่ารายได้ดีทดแทนรายางพาราที่แต่ละครอบครัวไม่สามารถรอราคา กระเตื้องขึ้นได้ และตลาดรับซื้อก็เป็นพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ยังมีความต้องการอีกมาก ยังไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายให้ลูกค้า
ด้านนายอาคม เซงย่อง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 5 ต.นาโยงเหนือ กล่าวว่า ตนเองหยุดกรีดยางพาราชั่วคราว เพราะได้ไม่คุ้มค่าเหนื่อยเนื่องจากราคายางพาราตก จึงหันมาเพาะเห็ดฟางขายในพื้นที่สวนยางประมาณ 6 ไร่ ก็ได้ทยอยเพาะเห็ดลงไปเรื่อยๆ ต้นทุนต่ำ ทำได้สะดวก ใช้เวลาไม่มาก ได้กำไรสูง
สำหรับขึ้นตอนการเพาะเห็ดนางฟางจากทลายปาล์มน้ำมันทำให้ง่าย ลงทุนน้อยใช้เวลาไม่กี่วันก็สามารถเก็บดอกส่งขายได้ แค่เตรียมดินในบริเวณพื้นที่ว่างสวนยางพาราหรือข้างบ้าน หรือภายในสวนผลไม้, ทำร่องขุดดินยาวประมาณ 4 เมตร หรือ 7 เมตร ,นำทลายปาล์มน้ำมันที่แช่น้ำแล้วมาวาง และใช้น้ำฉีดล้างความสะอาด เพื่อเอาคราบน้ำมันที่ติดมากับทลายปาล์มน้ำมันออกไปให้หมด
เพราะถ้าตกค้างอาจทำให้เห็ดเน่าเสียเป็นเชื้อรา จากนั้นนำเชื้อที่ซื้อมามาย่อยสลายแล้วนำไปโรยบนทลายปาล์มน้ำมันบนร่อง พรมน้ำให้ชุ่มแล้วนำผ้ายางปิดคลุมทับไว้ประมาณ 3 วัน จากนั้นจึงเปิดผ้าบยางออกแล้วขึ้นโครงไม้ไผ่ทำเป็นโค้งมนคลุมผ้าใบ เพื่อรักษาอุณหภูมิ ประมาณ 11 ? 15 วัน ก็สามารถเก็บดอกขายได้แล้ว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ