ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 09:23:04 AM »ไทย-เวียดนามตั้งเป้าเพิ่มการค้าระหว่างกันเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 63
ไทย-เวียดนาม ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 63 พร้อมเพิ่มความร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพยางพารา และร่วมมือค้าข้าวในตลาดโลก
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee) หรือการประชุม JTC ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 2 ที่โรงแรมอนันตรา สยาม ว่า ได้หารือร่วมกับนายหวู ฮวี ฮว่าง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม โดยได้ตกลงกำหนดเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าร่วมกันให้ได้ถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 จากในปี 2557 ซึ่งมีมูลค่า 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ล่าสุดช่วง 5 เดือนแรกของปี 2558 (ม.ค.-พ.ค.) มูลค่าการค้าระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศอยู่ที่ 5,107 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ประมาณร้อยละ 14.98
สำหรับความร่วมมือด้านการค้า ทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงที่จะร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตร โดยไทยได้เสนอให้เวียดนามเข้าร่วมกับไตรภาคี 3 ชาติเดิม ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ในการรักษาระดับราคายางพาราให้มีเสถียรภาพ และเพื่อเกิดอำนาจในการกำหนดปริมาณผลผลิตและราคายางในตลาดโลก ขณะที่สินค้าข้าว จากเดิมที่เป็นประเทศคู่แข่งทางการค้า ได้เห็นพ้องร่วมกันในการสร้างความร่วมมือเพื่อผลักดันการส่งออกข้าวร่วมกัน
นอกจากนี้ ไทยยังได้ขอให้เวียดนามเร่งรัดการแก้ไขกระบวนการจัดทำการวิเคราะห์ความ เสี่ยงศัตรูพืช ในการนำเข้า-ส่งออกผลไม้ระหว่างกัน หลังจากที่ผ่านมามีผลกระทบการส่งออกผลไม้ไทย 4 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ เงาะ ไปเวียดนาม ซึ่งไทยได้รับผลกระทบมานาน 4-5 ปีแล้ว
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ทั้ง 2 ประเทศยังได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ไทย-เวียดนาม ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยเน้นการวางเป้าหมายส่งเสริมการค้าและการลงทุน และอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะเรื่องระบบขนส่งและคมนาคมทางถนน รวมถึงความร่วมมือด้านการธนาคาร ที่จะส่งเสริมการเข้าไปจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ในประเทศของอีกฝ่าย และการสนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการทำธุรกิจระหว่างกันมากขึ้น พร้อมกันนี้ ไทยยังได้เชิญชวนภาคเอกชนเวียดนามเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อใช้ประโยชน์จากการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกันในภูมิภาค
ทั้งนี้ ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมาการค้าไทย-เวียดนาม มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 7,242 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2553 เป็น 11,826 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2557 โดยในปี 2557 เวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 4 ของไทยในอาเซียน และอันดับที่ 11 ของไทยในตลาดโลก การส่งออกจากไทยไปเวียดนามมีมูลค่า 7,888 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้ามีมูลค่า 3,938 ล้านเหรียญสหรัฐ
แหล่งข่าว:
ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไทย-เวียดนาม ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 63 พร้อมเพิ่มความร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพยางพารา และร่วมมือค้าข้าวในตลาดโลก
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee) หรือการประชุม JTC ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 2 ที่โรงแรมอนันตรา สยาม ว่า ได้หารือร่วมกับนายหวู ฮวี ฮว่าง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม โดยได้ตกลงกำหนดเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าร่วมกันให้ได้ถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 จากในปี 2557 ซึ่งมีมูลค่า 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ล่าสุดช่วง 5 เดือนแรกของปี 2558 (ม.ค.-พ.ค.) มูลค่าการค้าระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศอยู่ที่ 5,107 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ประมาณร้อยละ 14.98
สำหรับความร่วมมือด้านการค้า ทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงที่จะร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตร โดยไทยได้เสนอให้เวียดนามเข้าร่วมกับไตรภาคี 3 ชาติเดิม ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ในการรักษาระดับราคายางพาราให้มีเสถียรภาพ และเพื่อเกิดอำนาจในการกำหนดปริมาณผลผลิตและราคายางในตลาดโลก ขณะที่สินค้าข้าว จากเดิมที่เป็นประเทศคู่แข่งทางการค้า ได้เห็นพ้องร่วมกันในการสร้างความร่วมมือเพื่อผลักดันการส่งออกข้าวร่วมกัน
นอกจากนี้ ไทยยังได้ขอให้เวียดนามเร่งรัดการแก้ไขกระบวนการจัดทำการวิเคราะห์ความ เสี่ยงศัตรูพืช ในการนำเข้า-ส่งออกผลไม้ระหว่างกัน หลังจากที่ผ่านมามีผลกระทบการส่งออกผลไม้ไทย 4 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ เงาะ ไปเวียดนาม ซึ่งไทยได้รับผลกระทบมานาน 4-5 ปีแล้ว
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ทั้ง 2 ประเทศยังได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ไทย-เวียดนาม ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยเน้นการวางเป้าหมายส่งเสริมการค้าและการลงทุน และอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะเรื่องระบบขนส่งและคมนาคมทางถนน รวมถึงความร่วมมือด้านการธนาคาร ที่จะส่งเสริมการเข้าไปจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ในประเทศของอีกฝ่าย และการสนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการทำธุรกิจระหว่างกันมากขึ้น พร้อมกันนี้ ไทยยังได้เชิญชวนภาคเอกชนเวียดนามเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อใช้ประโยชน์จากการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกันในภูมิภาค
ทั้งนี้ ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมาการค้าไทย-เวียดนาม มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 7,242 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2553 เป็น 11,826 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2557 โดยในปี 2557 เวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 4 ของไทยในอาเซียน และอันดับที่ 11 ของไทยในตลาดโลก การส่งออกจากไทยไปเวียดนามมีมูลค่า 7,888 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้ามีมูลค่า 3,938 ล้านเหรียญสหรัฐ
แหล่งข่าว:
ASTVผู้จัดการออนไลน์