ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2015, 08:24:12 AM »


แยกขัง14นักศึกษาระวังม็อบสวนยาง


หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 00:00:00 น.
 
กรุงเทพฯ * "แอมเนสตี้ฯ" กลัวตกขบวน จี้ปล่อย 14 นักศึกษา ปั่นกระแสหนัก "โกน หัว-คุกคาม" บ้านผู้ปกครอง ชี้ทำเพื่อประ ท้วงถูกแยกแดน ผบ.คุกระบุมีแค่ 3 คนเดินมาขอให้ตัดผมสั้น ส่วนแยกขังเพื่อดูแลง่าย "ประวิตร" แจงแค่ไปพูดคุย "คณาจารย์ มธ.-จุฬาฯ" ออกแถลงการณ์ 3 ข้อ ลดร้อน แรง ปล่อยตัวทันที แต่หากดำเนินคดีให้ขึ้น ศาลพลเรือนพร้อมย้าย 14 นศ.ไป รร.ตำรวจบางเขน "ถาวร" เตือนไอ้โม่งปลุกชาวสวนยางผสมโรง



เมื่อวันพฤหัสบดี เพจแอมเนสตี้ อิน เตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ และเว็บไซต์แอมเนสตี้ในไทย ได้เผยแพร่ข้อความอ้าง ว่า สำนักงานเลขาธิการใหญ่แอมเนสตี้ อิน เตอร์เนชั่นแนล ซึ่งอยู่ที่กรุงลอนดอน ประ เทศอังกฤษ ได้ออกปฏิบัติการด่วนเรียกร้องสมาชิกทั่วโลกส่งจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ของไทย เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14 คนโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข และให้ยก เลิกข้อหาต่อนักศึกษาทั้งหมด โดยระบุว่า นักศึกษาทั้ง 14 คน เป็นนักโทษทางความคิดที่ถูกจับกุมและตั้งข้อหาเพียงเพราะใช้สิทธิมนุษยชนใน การชุมนุมอย่างสงบ ซึ่งการรณรงค์ดังกล่าวจะมีไปถึงวันที่ 11 ส.ค.นี้
 
นายจอห์น คอฟแลน ตัวแทนจากแอม เนสตี้ฯ ที่เดินทางมาพบกลุ่มนักศึกษายืนยันว่า แอมเนสตี้ฯ ได้จัดให้นักศึกษาเป็นนักโทษทางความคิด ถูกจองจำเพราะเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ฯ จึงเห็นควรให้สมาชิกทั่วโลก มีการปฏิบัติการด่วนทำหนังสือถึงทางการไทยให้ยกเลิกข้อกล่าวหาและปล่อยนัก ศึกษาทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข
 
ส่วนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กลุ่มคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนักศึกษาที่ถูกคุมขัง โดยนางดวงมณี เลาวกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มธ. กล่าวว่า จากการพูดคุย นักศึกษายังกำลังใจดี และยืนยันจะสู้ต่อ แม้ถูกแยกแดนคุมขัง และยืนยันไม่ขอประกันตัว ซึ่ง มธ.กำลังหารือกันว่าจะหาแนวทางช่วยเหลือนักศึกษาทั้งหมดเพิ่มเติมต่อไปอย่าง ไร
 
นางพวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า นักศึกษาได้เล่าว่าอาจมีการแทรกแซงจากรัฐบาลเข้ามาในเรือนจำ เพราะมีการแยกแดนผู้ต้องหาในเวลากลางคืนที่ผ่านมาเพื่อกดดันให้ประกันตัว จึงได้ประท้วงโดยการโกนหัว
 
ทั้งนี้ กลุ่มคณาจารย์ยังได้ออกแถลง การณ์ระบุว่า เพื่อประโยชน์ในการผ่อนคลาย สถานการณ์ตึงเครียดและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในบ้านเมือง ดังนี้ 1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14 คนโดยทันทีไม่มีเงื่อนไข แต่หากรัฐบาลจะดำเนินคดีกับพวกเขา ก็พึงกระทำในศาลพลเรือน 2.ในระหว่างที่คุมขัง รัฐบาลและ คสช.พึงปฏิบัติในฐานะผู้ต้องหาทางการเมือง ไม่ใช่อาชญากร โดยควรย้ายออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และนำไปฝากขังไว้ยังโรงเรียนตำรวจบางเขน และ 3.รัฐบาลและ คสช.ต้องหยุดพฤติกรรมข่มขู่ คุกคามคณาจารย์และประชาชนที่ออกมาแสดงความห่วงใยนักศึกษาทั้ง 14 คนโดยชอบตามสิทธิเสรีภาพที่มี ดังปรากฏในรายงานข่าวในขณะนี้ว่ามีครอบครัว เพื่อน และอาจารย์ของนักศึกษาทั้ง 14 คน กำลังเผชิญการคุกคามด้วยวิธีการต่างๆ เช่น มีเจ้าหน้าที่ไปหาที่บ้าน ที่ทำงาน หรือเรียกไปพบเพื่อกดดันให้ยุติกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น
โวโกนผมประท้วง
 
ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม และนายรัฐพล ศุภโสภณ 2 ใน 14 นักศึกษา ได้ออกมาที่ห้องเยี่ยมในสภาพทรงผมสกินเฮด ซึ่งนายรังสิมันต์กล่าวว่า นักศึกษาทั้งหมดตัดสินใจโกนผมประท้วง เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่แยกขังตั้งแต่ค่ำวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งเชื่อว่าเป็นคำสั่งจาก คสช.ที่ต้องการไม่ให้พูดคุยปรึกษากัน และกดดันให้ขอประกันตัว แต่ขอยืนยันว่าจะไม่ประกัน เพราะเชื่อมั่นว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย หากจะปล่อยตัวต้องปล่อยโดยที่ไม่มีมลทิน และถ้าจะเจรจาก็ขอให้อยู่ในหลักการที่ถูกต้องเท่านั้น
 
ส่วนนายรัฐพลกล่าวถึงกรณีที่ คสช.พยายามเจรจาช่วยเหลือ และอ้างว่าต้องตรวจสอบว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ว่าไม่รู้จะเจรจาอะไร เพราะเบื้องหลังคือประชาชนที่ยึดมั่นในประชาธิปไตย และถ้าจะใช้มาตรา 44 มาแก้ไขปัญหาด้วยการปล่อยตัว ก็ขอปฏิเสธ ถ้าจะปล่อยก็ไม่ควรมีเงื่อนไข
 
"ตอนนี้มีกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ใช้ชื่อว่า อาชีวะช่วยชาติ ออกมาประกาศจะต่อต้านพวกผมนั้น ขอให้สังคมเข้าใจว่าพวกผมไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ใคร เพราะยังเคยต่อต้านพรรคเพื่อไทยตอนออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งมาแล้ว ดังนั้นถ้าจะตั้งกลุ่มออกมาต่อต้านด้วยเหตุผลนี้ ก็เพียงเพื่อหาความชอบธรรมที่จะฆ่าพวกผม อย่างเช่นที่กลุ่มกระทิงแดงเคยทำเมื่อตอนเหตุการณ์ล้อมฆ่า 6 ตุลาคม 2519 เท่านั้น" นายรัฐพลระบุ
 
ต่อมาเวลา 14.00 น. นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ รักษาการกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนักศึกษาทั้ง 14 คนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางระบุว่า นศ.ชายกังวล เรื่องการแยกแดนคุมขัง ส่วน นศ.หญิงพบว่าป่วยจากอาการบาดเจ็บที่ขาและแขน โดยระบุว่าเกิดขึ้นระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมตอนทำกิจกรรม หน้าหอศิลป์ กทม. เมื่อวันที่ 22 พ.ค. แต่จากการเอ็มอาร์ไอโดยโรงพยาบาลของรัฐก่อนหน้านี้ พบว่ามีอาการกระดูกทับเส้นประสาท และล่าสุดทราบว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะส่ง น.ส.ชลธิชา ไปรักษาทำกายภาพบำบัดที่ รพ.ราชทัณฑ์ ในวันที่ 3 ก.ค.นี้
 
"จากการสอบถามนักศึกษา ทุกคนยังยืนยันในหลักการว่าทำถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชน ไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหา คสช. จึงไม่ขอประกันตัว กสม.จึงจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในวันที่ 3 ก.ค.ได้นัดทีมทนายสิทธิมนุษยชนและญาติเข้าให้ข้อมูล ส่วนในวันที่ 7 ก.ค.ได้นัดฝ่ายตำรวจและทหารต่อไป" นพ.นิรันดร์กล่าว
ผบ.คุกแจงข้อเท็จจริง
 
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวว่า หลังจากเข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยในเรือนจำ ล่าสุดภาพรวมถือว่าปกติดี และเจ้าหน้าที่ได้แยกคุมขังนักศึกษาไปตามแดนต่างๆ แดนละ 2-3 คน เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมดูแล ส่วนการตัดผมของนักศึกษานั้น ก็เป็นความประสงค์ส่วนตัวของนักศึกษา 3 คนที่เดินมาขอให้ช่างตัดผมในเรือนจำตัดผมสั้นให้ ซึ่งไม่ได้เป็นการประท้วงหรือโกนหัวที่ทำการแยกขังแต่อย่างใด
 
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กขบวนการประ ชาธิปไตยใหม่ได้ออกแถลงการณ์ประณามการคุกคามสมาชิกกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ อาจารย์ที่ห่วงใยลูกศิษย์ และประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ว่า หลังจากจับกุมสมาชิกกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ขึ้นศาลทหารกลางดึก และส่งตัวไปกักขัง ณ เรือนจำกลางกรุงเทพฯ ในวันที่ 27 มิ.ย. พบว่ามีการคุกคามประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยชายแต่งกายคล้ายชุดทหารไปปรากฏตัวและมีลักษณะข่มขู่ คุกคามนักศึกษา นักวิชาการ ประชาชนในหลายพื้นที่ อาทิ ไปคุกคามที่บ้านของนักศึกษา คุกคามถึงที่ทำงานของอาจารย์ การติดตามตัวและกดดันประชาชน
 
"ขอประณามปฏิบัติการตามอำเภอใจดังกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐ และเรียกร้องให้คณะรัฐบาลทหาร ยุติการคุกคาม ข่มขู่ครอบครัวนักศึกษา นักวิชาการผู้ห่วงใยศิษย์ และประชาชน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ และขอเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันปกป้องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในภาวะที่ หลักการนิติรัฐถูกบิดเบือน ด้วยเหตุที่ว่าทุกคนมีโอกาสถูกกระทำจากปฏิบัติการไร้ขอบเขตของเจ้าหน้าที่ รัฐ ดังที่เกิดขึ้นตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ตอกย้ำข้อเท็จจริงที่ว่ารัฐบาลทหารไม่มีความจริงใจต่อการคืนอำนาจให้ ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย" แถลงการณ์ ระบุ
 
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนักศึกษากล่าวว่า ในวันที่ 1 ก.ค. ช่วงประมาณ 11.00 น. ได้รับแจ้งจากนางลมุน แจ้งเร็ว มารดา น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือน้องลูกเกด ซึ่งเป็น 1 ใน 14 นักศึกษาที่ถูกควบคุมตัวว่า มีทหารในเครื่องแบบ 3 นายไปพบที่บ้านพักที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยนายทหารที่เป็นหัวหน้าชุดอ้างว่าได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาพบปะ เพื่อสอบถามผู้ปกครอง น.ส.ชลธิชา ว่าทำไม น.ส.ชลธิชาจึงมีพฤติการณ์ต่อต้าน คสช. และสอบถามเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดู ว่าเหตุใดจึงไม่ควบคุมดูแลลูกสาวไม่ให้มีพฤติการณ์ต่อต้านรัฐบาล ขณะเดียวกันก็มีการสอบสวนว่ามีผู้ใดอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักศึกษา
 
นายกฤษฎางค์อ้างว่า นางลมุนเล่าให้ฟังว่าได้ตอบโต้ไปว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดเป็นความคิดของเด็ก เอง พ่อแม่ไม่อาจบังคับได้ และได้ยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลังเด็กแน่นอน โดยใช้เวลาพูดคุยกับทหารเป็นเวลา 1 ชม. นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากญาติของนายพรชัย ยวนยี  1 ใน 14 นักศึกษาที่ถูกคุมขังในเรือนจำว่า ที่บ้านมีทหารเข้ามาพบในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน
 
วันเดียวกัน เว็บไซต์ประชาไทได้ชี้แจงกรณีมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาสอบถามข้อมูล โดยระบุว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 (ร.1พัน 2) 3 นาย เข้ามาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและกิจกรรมทางการเมือง โดยพูดคุยประมาณ 20 นาที และได้ขอเบอร์โทรศัพท์ และชื่อของผู้ที่สามารถติดต่อได้ประจำ พร้อมถ่ายรูปเจ้าหน้าที่บางส่วนและภาพภายนอกสำนักงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ามาทำการตรวจสอบเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาตรวจสอบ และเก็บข้อมูลประชาไทเป็นประจำทุกครั้งที่ประชาไทจัดกิจกรรมสาธารณะ และไม่ได้เข้ามาในส่วนสำนักงาน แต่ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ประชาไทถ่ายภาพให้ และยังสังเกตการณ์อยู่ภายนอกสำนักงาน
บิ๊กอ๊อดชี้แค่ไปพูดคุย
 
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ทหารไปข่มขู่ครอบครัวนักศึกษา 14 คนว่า ไปถามเขาว่าทหารไปคุกคามหรือไปพูดคุยด้วย ยืนยันว่าไม่มีทหารไปคุกคาม สื่อต้องช่วยกันคิด คำถามอย่าไปทำให้ตีกัน ขอให้ทุกคนช่วยกันทำตามรัฐบาล อย่าไปขัดแย้ง เพราะจะทำให้ไม่เกิดความปรองดอง รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้อยากได้อำนาจ แต่ทำทุกอย่างเพื่อส่งต่อให้วันข้างหน้า
 
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14 คนว่า ถามว่าตอนนี้เขาทำผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดเราก็ต้องมาดูว่าจะดำเนินการอย่างไร ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ก็ตอบคำถามไปแล้ว ซึ่งต้องหาทางคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ร่วมกัน ต้องเห็นใจว่าประเทศกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และนายกฯ ก็ประกาศโรดแม็พชัดเจนว่าได้ดำเนินการทำอะไรบ้าง ขอให้ทุกฝ่ายหยุดก่อนแล้วมาช่วยคนจน รวมถึงช่วยชาวนาที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ปัญหาการเมืองอย่าเพิ่งออกมา
 
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวเช่นกันว่า วันนี้มีหลายกลุ่มที่เคลื่อนไหว บางกลุ่มมีเจตนาดี บางกลุ่มต้องตรวจสอบวัตถุประสงค์เพิ่มเติม แต่ที่สำคัญวันนี้คือปัญหาเศรษฐกิจ เป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลต้องให้เวลาแก้ปัญหา เพราะเร่งด่วนและประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก ซึ่งกรณีของนักศึกษาก่อนมีการจับกุมก็ผ่อนปรนเปิดโอกาสจนเกินขอบเขตถึงมีการ จับ กุม ส่วนที่ยังเคลื่อนไหวอยู่นั้นก็ต้องดูข้อเท็จจริง ถ้าอยู่ในขอบเขตเราก็ไม่ทำอะไร เราไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย เพราะจะไปกระทบกับปัญหาใหญ่ของประเทศ
 
"รัฐบาลเป็นห่วงอะไรก็ตามที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายไม่อยากให้มี เพราะเราอยากมุ่งมั่นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาภัยแล้ง ก็ต้องบอกกลุ่มเห็นต่างว่าขอให้เลิก อย่าเพิ่งเคลื่อนไหว มาช่วยปัญหาความเดือดร้อนของบ้านเมืองก่อน" นายสุวพันธุ์ระบุ
 
ขณะที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง กล่าวว่า คณะกรรมการฯ รู้สึกเป็นห่วงเรื่องที่เกิดขึ้น และพร้อมอาสาให้ความช่วยเหลือ หากจะให้ไปร่วมเจรจาก็ยินดี เพราะเชื่อว่านักศึกษาบริสุทธิ์ไม่มีสีเสื้อ และพร้อมเป็นตัวกลางเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายได้มาร่วมเสนอความเห็น
หนุนบิ๊กตู่เจรจา
 
นายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะอธิการบดี ม.ขอนแก่น ซึ่งมีนักศึกษา 5 คนถูกจับกุมตัวว่า พร้อมรับฟังและช่วยเหลือนักศึกษาอย่างเต็มที่เท่าที่ทำได้ ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุจะเข้าพูดคุยกับนักศึกษานั้นก็เห็นด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องดีที่จะได้สร้างความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารมหาวิทยาลัย ผู้ว่าฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่ ก็ได้เข้าพูดคุยกับนักศึกษากลุ่มนี้มาโดยตลอด
 
"บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยก็ไม่ ได้สั่งห้ามทำกิจกรรมอะไร เพราะเข้าใจว่า กิจกรรมเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ของนัก ศึกษา อย่าง 2-3 วันที่ผ่านมา ก็มีการจุดเทียนให้กำลังใจ แต่ต้องไม่ข้ามเส้น เช่น เขียนป้ายประท้วง"
 
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่ สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมได้ ไม่ให้นำไปสู่สถานการณ์ที่บานปลายออกไป และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ
 
ส่วนนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. เตือนว่า การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ทางการเมืองต้องรู้เท่าทันฝ่ายตรงข้ามที่คอยจ้องทำลายทุกวิถีทาง ซึ่งการดำเนินการของ รัฐบาลกำลังเข้าทางผู้อยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะระบอบทักษิณ เพราะมีข่าวว่าผู้ยุยงกลุ่มนัก ศึกษากลุ่มดาวดินนั้นกำลังชักจูงพี่น้องชาว สวนยางจากทุกภาคที่ได้รับผลกระทบจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปดำเนินการตัด โค่นต้นยางที่ปลูกไว้ในเขตป่าสงวน หรือในเขตที่ดินของรัฐออกมาเคลื่อนไหวและสร้างความปั่นป่วนเพื่อนำเสนอต่อ องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และร้องเรียนไปที่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ให้บอยคอตการซื้อสินค้าจากไทย
 
"การเสนอให้รัฐบาล หรือ คสช.เจรจากับพลังนักศึกษาถือว่าเป็นแนวทางที่ดี แต่สังคมที่แบ่งข้างในปัจจุบันนี้ถ้าเราไม่ใคร่ครวญให้ดี ก็จะตกเป็นเหยื่อของฝ่ายตรงข้าม" นายถาวรกล่าว.