ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มิถุนายน 03, 2015, 09:03:31 AM »ไทย-อินโดฯ-มาเลย์ นัดถกดึงราคา"ยาง"
วันที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 10:41:21 น.ที่มา matichon online
นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (IRCo) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2558 จะมีการประชุมผู้แทน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย จัดที่เมืองยอร์คยากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อกำหนดกลยุทธ์และแนวทางการส่งเสริมให้มีการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้น และผลักดันราคายางพาราให้สูงขึ้นช่วงครึ่งปีนี้ โดยเร่งรัดการจัดตั้งสภายางอาเซียนเป็นศูนย์กลางความร่วมมือพัฒนาการผลิต การวิจัย การตลาดและอุตสาหกรรมยางพาราของอาเซียน ซึ่งเตรียมดึงเวียดนามเข้าร่วมด้วยโดย 4 ประเทศนี้ถือเป็นผู้ผลิตยางพาราที่มีส่วนแบ่งตลาดโลกกว่า 92% โดยการประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีความคืบหน้าเรื่องการจัดตั้งตลาดยางพาราซื้อขายส่งมอบจริงของประเทศผู้ผลิตกลางปี 2559 ผลักดันจัดตั้งเงินกองทุนร่วมเพื่อใช้บริหารการเก็บสต๊อกและขายยางพารา และรักษาระดับราคายางพาราให้สูง มีเสถียรภาพระยะยาว และนำเสนอแผนของไทย ที่ได้เสนอภาครัฐเร่งโค่นสวนยางหมดอายุเพื่อลดอุปทานออกสู่ตลาด และต้องหยุดขยายพื้นที่ปลูกยางพาราในพื้นที่ใหม่อย่างจริงจัง 5-6 ปี รวมถึงจัดทำแผนคุมอุปสงค์อุปทานให้เหมาะสม
วันที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 10:41:21 น.ที่มา matichon online
นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (IRCo) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2558 จะมีการประชุมผู้แทน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย จัดที่เมืองยอร์คยากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อกำหนดกลยุทธ์และแนวทางการส่งเสริมให้มีการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้น และผลักดันราคายางพาราให้สูงขึ้นช่วงครึ่งปีนี้ โดยเร่งรัดการจัดตั้งสภายางอาเซียนเป็นศูนย์กลางความร่วมมือพัฒนาการผลิต การวิจัย การตลาดและอุตสาหกรรมยางพาราของอาเซียน ซึ่งเตรียมดึงเวียดนามเข้าร่วมด้วยโดย 4 ประเทศนี้ถือเป็นผู้ผลิตยางพาราที่มีส่วนแบ่งตลาดโลกกว่า 92% โดยการประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีความคืบหน้าเรื่องการจัดตั้งตลาดยางพาราซื้อขายส่งมอบจริงของประเทศผู้ผลิตกลางปี 2559 ผลักดันจัดตั้งเงินกองทุนร่วมเพื่อใช้บริหารการเก็บสต๊อกและขายยางพารา และรักษาระดับราคายางพาราให้สูง มีเสถียรภาพระยะยาว และนำเสนอแผนของไทย ที่ได้เสนอภาครัฐเร่งโค่นสวนยางหมดอายุเพื่อลดอุปทานออกสู่ตลาด และต้องหยุดขยายพื้นที่ปลูกยางพาราในพื้นที่ใหม่อย่างจริงจัง 5-6 ปี รวมถึงจัดทำแผนคุมอุปสงค์อุปทานให้เหมาะสม