ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2015, 02:51:40 PM »?แด๊กซิน? ขยายฐานเพื่อนบ้านแม้บริษัทฯ จะเผชิญกับภาวะยางพาราราคาตกต่ำ
ที่มา บ้านเมือง
นายทวีวงศ์ อับดุลบุตร รองประธานกรรมการ บริษัท แด๊กซิน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในต้นปีที่ผ่านมา แม้บริษัทฯ จะเผชิญกับภาวะยางพาราราคาตกต่ำ เนื่องจากสินค้าที่ทำยอดขายให้บริษัทเป็นสินค้ากลุ่มเกษตร ขณะเดียวกันยอดขายในต่างประเทศก็เริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในมาเลเซีย ที่เปิดดำเนินการมาได้เพียง 5 ปี แต่สามารถทำให้ยอดเติบโตมาช่วยยอดขายในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผลตอบรับในเรื่องของปุ๋ย ซึ่งสินค้าของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับกลับมาเป็นอย่างดี แต่ก็มีผลกระทบบ้าง เพราะราคายางพาราตกต่ำเช่นกัน
สำหรับเรื่องของยอดขายเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วก็ประมาณเดิม ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือต่ำลง และสมาชิกก็ 70,000 รหัสขึ้นไป สำหรับปีนี้ครบ 20 ปี ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายให้สมาชิกถึง 1 ล้านรหัสในอีก 3 ปีข้างหน้าให้ได้
?ต้องบอกว่าธุรกิจแด๊กซิน ยอดขายอาจจะไม่สวยหรู แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ อยู่ในระดับกลางๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และเครื่องมือที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับบริษัทฯ อีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน ที่สำคัญงานนี้ยังจะมีการมอบโปรโมชั่นให้กับสมาชิกมากขึ้นด้วย เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน ในการทำการตลาดนั้น ระบบเครือข่ายจะเป็นแบบปากต่อปาก ใช้ดีแล้วปากต่อ อย่าหยุดที่จะออกไปหาสปอนเซอร์ เพราะถ้าออกไปทุกวันยังไงคุณก็มีรายได้ เพราะว่าสินค้าเรามีคุณภาพดีจริง เพียงแต่คุณเอาไปทำผู้มุ่งหวังเปิดใจ และถ้าเขาเปิดใจเมื่อไหร่ คุณก็สามารถมีรายได้ตามมาแน่นอน?
ในส่วนของสินค้า ?แด๊กซิน? จะมีอยู่ด้วยกัน 7 กลุ่ม ได้แก่ เพื่อสุขภาพ, เครื่องดื่ม, อาหารเสริม, ของใช้ประจำวัน, ความงาม, เกษตร แต่สินค้าหลักๆ ที่เป็นตัวชูโรงก็จะมีเห็ดหลินจือรากและดอก 6 สายพันธุ์ และกาแฟ
ขณะเดียวกัน ส่วนกลยุทธ์ในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมขยายตลาดต่างประเทศ จากเดิมที่มีสาขาที่มาเลเซียที่สร้างยอดขายได้เป็นอันดับ 2 รองจากไทย ก็ยังมีที่ลาว 3 สาขา แต่ที่ลาวได้เปิดแบบให้สมาชิกที่สนใจนำไปลงทุน คล้ายกับคลังสินค้า แต่ต้องเอาระบบเข้าไปจัดการทั้งหมด และที่กัมพูชามี 1 สาขา เพิ่งเริ่มเปิดอีก 1 สาขา ตอนนี้มีแผนจะขยายเข้าไปในอินโดนีเซีย และพม่าอยู่ในขั้นการเจรจาหาหุ้นส่วน โดยเราจะพยายามเข้าไปทุกประเทศใน AEC ให้ครอบคลุมภายใน 5 ปี ซึ่งจะทำให้เราทำธุรกิจง่ายขึ้น สำหรับเป้าหมายสิ้นปีนี้น่าจะเข้าเป้าที่ 800 ล้านบาท เท่ากับยอดปีที่ผ่านมาทำได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเจาะตลาดต่างประเทศ ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ทางบริษัทฯ มอง เพราะจะสามารถเพิ่มรายได้และยอดขายให้บริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น โดยลักษณะการทำตลาดในต่างประเทศ เราจะทำการศึกษาและวิจัยก่อนเข้าไปทำตลาดทุกครั้ง
ที่มา บ้านเมือง
นายทวีวงศ์ อับดุลบุตร รองประธานกรรมการ บริษัท แด๊กซิน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในต้นปีที่ผ่านมา แม้บริษัทฯ จะเผชิญกับภาวะยางพาราราคาตกต่ำ เนื่องจากสินค้าที่ทำยอดขายให้บริษัทเป็นสินค้ากลุ่มเกษตร ขณะเดียวกันยอดขายในต่างประเทศก็เริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในมาเลเซีย ที่เปิดดำเนินการมาได้เพียง 5 ปี แต่สามารถทำให้ยอดเติบโตมาช่วยยอดขายในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผลตอบรับในเรื่องของปุ๋ย ซึ่งสินค้าของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับกลับมาเป็นอย่างดี แต่ก็มีผลกระทบบ้าง เพราะราคายางพาราตกต่ำเช่นกัน
สำหรับเรื่องของยอดขายเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วก็ประมาณเดิม ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือต่ำลง และสมาชิกก็ 70,000 รหัสขึ้นไป สำหรับปีนี้ครบ 20 ปี ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายให้สมาชิกถึง 1 ล้านรหัสในอีก 3 ปีข้างหน้าให้ได้
?ต้องบอกว่าธุรกิจแด๊กซิน ยอดขายอาจจะไม่สวยหรู แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ อยู่ในระดับกลางๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และเครื่องมือที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับบริษัทฯ อีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน ที่สำคัญงานนี้ยังจะมีการมอบโปรโมชั่นให้กับสมาชิกมากขึ้นด้วย เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน ในการทำการตลาดนั้น ระบบเครือข่ายจะเป็นแบบปากต่อปาก ใช้ดีแล้วปากต่อ อย่าหยุดที่จะออกไปหาสปอนเซอร์ เพราะถ้าออกไปทุกวันยังไงคุณก็มีรายได้ เพราะว่าสินค้าเรามีคุณภาพดีจริง เพียงแต่คุณเอาไปทำผู้มุ่งหวังเปิดใจ และถ้าเขาเปิดใจเมื่อไหร่ คุณก็สามารถมีรายได้ตามมาแน่นอน?
ในส่วนของสินค้า ?แด๊กซิน? จะมีอยู่ด้วยกัน 7 กลุ่ม ได้แก่ เพื่อสุขภาพ, เครื่องดื่ม, อาหารเสริม, ของใช้ประจำวัน, ความงาม, เกษตร แต่สินค้าหลักๆ ที่เป็นตัวชูโรงก็จะมีเห็ดหลินจือรากและดอก 6 สายพันธุ์ และกาแฟ
ขณะเดียวกัน ส่วนกลยุทธ์ในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมขยายตลาดต่างประเทศ จากเดิมที่มีสาขาที่มาเลเซียที่สร้างยอดขายได้เป็นอันดับ 2 รองจากไทย ก็ยังมีที่ลาว 3 สาขา แต่ที่ลาวได้เปิดแบบให้สมาชิกที่สนใจนำไปลงทุน คล้ายกับคลังสินค้า แต่ต้องเอาระบบเข้าไปจัดการทั้งหมด และที่กัมพูชามี 1 สาขา เพิ่งเริ่มเปิดอีก 1 สาขา ตอนนี้มีแผนจะขยายเข้าไปในอินโดนีเซีย และพม่าอยู่ในขั้นการเจรจาหาหุ้นส่วน โดยเราจะพยายามเข้าไปทุกประเทศใน AEC ให้ครอบคลุมภายใน 5 ปี ซึ่งจะทำให้เราทำธุรกิจง่ายขึ้น สำหรับเป้าหมายสิ้นปีนี้น่าจะเข้าเป้าที่ 800 ล้านบาท เท่ากับยอดปีที่ผ่านมาทำได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเจาะตลาดต่างประเทศ ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ทางบริษัทฯ มอง เพราะจะสามารถเพิ่มรายได้และยอดขายให้บริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น โดยลักษณะการทำตลาดในต่างประเทศ เราจะทำการศึกษาและวิจัยก่อนเข้าไปทำตลาดทุกครั้ง