ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2015, 09:38:26 AM »เลี้ยงไก่เสริมสวนยาง ทุน8หมื่นรับปีละ2ล้าน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 12 พ.ค. 2558 05:01
ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทำให้ชาวสวนยางมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เกษตรกรหลายรายต้องขวนขวายหาอาชีพอื่นมาทำเพื่อเสริมค่าครองชีพ นายอัศวิน ชักชวนวงศ์ อายุ 50 ปี ชาวสวนยาง ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง เป็นอีกผู้หนึ่งที่หาทางออกให้กับตัวเองด้วยการเลี้ยงไก่ในสวนยาง
?ปลูกยางไว้ 10 ไร่มาหลายปีไม่มีปัญหาอะไร กระทั่ง 5 ปีที่แล้วเมื่อราคายางตกต่ำ สภาพครอบครัวเริ่มตกอยู่ในสภาพลุ่มๆ ดอนๆ รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ญาติพี่น้องเห็นเราลำบากจึงแนะนำให้เลี้ยงไก่เนื้อเพื่อจำหน่ายให้กับบริษัท เอกชนที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ แบบคอนแทร็กฟาร์มมิ่ง เห็นว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง บริษัทที่ทำโครงการมีความน่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจกู้เงินกับสหกรณ์การเกษตรศรีเมืองระยอง จำกัด?
ปี 2556 กู้เงินมา 8 หมื่นบาท สร้างโรงเรือนเป็นแบบเล้าลอย ยกโรงเรือนให้สูงจากพื้นในระบบเปิด 1 โรงเรือน ซื้อลูกไก่จำนวน 4,000 ตัวมาเลี้ยง รายได้อยู่ในเกณฑ์ดีจึงขยายการสร้างโรงเรือนเพิ่มอีก 1 โรง และเพิ่มไก่เนื้ออีกจำนวน 5,500 ตัว จากนั้นต่อยอดมาเรื่อยๆ ปีแรกมีรายได้หลายแสนบาท ขายไก่ได้นำมาใช้หนี้ พร้อมกับปรับเปลี่ยนโรงเรือนเป็นระบบปิดจำนวน 2 โรงเรือน ทำให้เลี้ยงไก่ได้ เพิ่มขึ้นเป็น 19,000ตัว
?เลี้ยงมาจนเกิดความชำนาญ จึงได้รู้ว่าเป็นอาชีพที่ไม่ยาก หากเราขยันเอาใจใส่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการให้น้ำ อาหาร และคอยสังเกตอุณหภูมิในโรงเรือนไม่ให้เปลี่ยนแปลงบ่อย การเลี้ยงใช้เวลาเพียง 35-37 วันต่อรุ่น สามารถจับขายได้เร็ว เพราะเลี้ยงในโรงเรือนปิด เราสามารถปรับอุณหภูมิและความชื้นเหมาะกับการดำรงชีวิตของไก่แต่ละช่วงอายุ ได้ง่าย เมื่อไก่อยู่สบายก็ไม่ป่วย อัตราเสียหายลดลง รอบการผลิตเพิ่มขึ้น รายได้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว?
นายอัศวิน เล่าอย่างภูมิใจว่า ทุกวันนี้ไก่เนื้อราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ 37-39 บาทต่อ กก. ไก่ที่เลี้ยงไว้ตัวหนึ่งน้ำหนักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 กก. ไก่ 19,000 ตัว ขายได้คิดเป็นเงิน 1,406,000บาท เลี้ยงปีละประมาณ 4 รุ่น หลังหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว ปีที่ผ่านมาได้กำไรเกือบ 2 ล้านบาท ทำให้ความเป็นอยู่ในครอบครัวดีขึ้นมากไม่ขัดสน ไม่มีหนี้สิน และมีเงินฝากไว้จำนวนหนึ่ง ถ้าไม่ตัดสินใจกู้เงินสหกรณ์ฯ เพื่อเปลี่ยนอาชีพในวันนั้น ครอบครัวเราคงไม่มีวันนี้.
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 12 พ.ค. 2558 05:01
ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทำให้ชาวสวนยางมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เกษตรกรหลายรายต้องขวนขวายหาอาชีพอื่นมาทำเพื่อเสริมค่าครองชีพ นายอัศวิน ชักชวนวงศ์ อายุ 50 ปี ชาวสวนยาง ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง เป็นอีกผู้หนึ่งที่หาทางออกให้กับตัวเองด้วยการเลี้ยงไก่ในสวนยาง
?ปลูกยางไว้ 10 ไร่มาหลายปีไม่มีปัญหาอะไร กระทั่ง 5 ปีที่แล้วเมื่อราคายางตกต่ำ สภาพครอบครัวเริ่มตกอยู่ในสภาพลุ่มๆ ดอนๆ รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ญาติพี่น้องเห็นเราลำบากจึงแนะนำให้เลี้ยงไก่เนื้อเพื่อจำหน่ายให้กับบริษัท เอกชนที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ แบบคอนแทร็กฟาร์มมิ่ง เห็นว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง บริษัทที่ทำโครงการมีความน่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจกู้เงินกับสหกรณ์การเกษตรศรีเมืองระยอง จำกัด?
ปี 2556 กู้เงินมา 8 หมื่นบาท สร้างโรงเรือนเป็นแบบเล้าลอย ยกโรงเรือนให้สูงจากพื้นในระบบเปิด 1 โรงเรือน ซื้อลูกไก่จำนวน 4,000 ตัวมาเลี้ยง รายได้อยู่ในเกณฑ์ดีจึงขยายการสร้างโรงเรือนเพิ่มอีก 1 โรง และเพิ่มไก่เนื้ออีกจำนวน 5,500 ตัว จากนั้นต่อยอดมาเรื่อยๆ ปีแรกมีรายได้หลายแสนบาท ขายไก่ได้นำมาใช้หนี้ พร้อมกับปรับเปลี่ยนโรงเรือนเป็นระบบปิดจำนวน 2 โรงเรือน ทำให้เลี้ยงไก่ได้ เพิ่มขึ้นเป็น 19,000ตัว
?เลี้ยงมาจนเกิดความชำนาญ จึงได้รู้ว่าเป็นอาชีพที่ไม่ยาก หากเราขยันเอาใจใส่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการให้น้ำ อาหาร และคอยสังเกตอุณหภูมิในโรงเรือนไม่ให้เปลี่ยนแปลงบ่อย การเลี้ยงใช้เวลาเพียง 35-37 วันต่อรุ่น สามารถจับขายได้เร็ว เพราะเลี้ยงในโรงเรือนปิด เราสามารถปรับอุณหภูมิและความชื้นเหมาะกับการดำรงชีวิตของไก่แต่ละช่วงอายุ ได้ง่าย เมื่อไก่อยู่สบายก็ไม่ป่วย อัตราเสียหายลดลง รอบการผลิตเพิ่มขึ้น รายได้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว?
นายอัศวิน เล่าอย่างภูมิใจว่า ทุกวันนี้ไก่เนื้อราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ 37-39 บาทต่อ กก. ไก่ที่เลี้ยงไว้ตัวหนึ่งน้ำหนักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 กก. ไก่ 19,000 ตัว ขายได้คิดเป็นเงิน 1,406,000บาท เลี้ยงปีละประมาณ 4 รุ่น หลังหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว ปีที่ผ่านมาได้กำไรเกือบ 2 ล้านบาท ทำให้ความเป็นอยู่ในครอบครัวดีขึ้นมากไม่ขัดสน ไม่มีหนี้สิน และมีเงินฝากไว้จำนวนหนึ่ง ถ้าไม่ตัดสินใจกู้เงินสหกรณ์ฯ เพื่อเปลี่ยนอาชีพในวันนั้น ครอบครัวเราคงไม่มีวันนี้.