ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: เมษายน 25, 2015, 10:15:10 AM »

ส่องสถานการณ์และแนวโน้มยางพาราไตรมาส 2/2015 (เมษายน-มิถุนายน)

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

24 เมษายน 2558 13:27 น. (แก้ไขล่าสุด 24 เมษายน 2558 13:32 น.)
ส่องสถานการณ์และแนวโน้มยางพาราไตรมาส 2/2015 (เมษายน?มิถุนายน) height=292


โดย...ธีรวุฒิ  อ่อนดำ  ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
         
        แนวโน้มผลผลิตยางธรรมชาติโดยรวมของโลกไตรมาสที่ 2/2015 ประกอบกับการประมาณการโดยใช้ข้อมูลสถิติที่ผ่านมา คาดว่าปริมาณผลผลิต และความต้องการใช้ยางธรรมชาติโดยรวมมีแนวโน้มทรงตัว จากสัญญาณเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอ และความกังวลในเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจโลกที่สะท้อนผ่านการปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปี 2015-16 ลงสู่ระดับ 3.5%, 3.7% จาก 3.8%, 4.0% ตามลำดับ (IMF) สอดคล้องต่อ World Bank ที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP 2015 โลกลงสู่ระดับ 3.0% จาก 3.4%
         
        ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจอเมริกาเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งสะท้อนผ่านแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve System : Fed) ที่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยล่าสุด ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่ส่งผลต่อปริมาณความต้องการใช้ยางธรรมชาติ ทั้งนี้ เนื่องจากน้ำมันถือเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตยางสังเคราะห์ ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนยางธรรมชาติที่สำคัญ
         
        แต่ขณะที่สัญญาณเศรษฐกิจจีนกลับสวนทางกัน ซึ่งล่าสุด ธนาคารกลางจีน ประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) หรือทุนสำรองระดับต่ำสุดที่ธนาคารพาณิชย์ต้องสำรองไว้ลงอีก 1% ทั้งนี้ เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจที่ปัจจุบันเริ่มชะลอตัว
         
        ดังนั้น แม้ว่าอเมริกาซึ่งถือเป็นประเทศผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ยางที่สำคัญของจีนมี สัญญาณเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ภาพรวมมองว่าปริมาณความต้องการยางธรรมชาติยังคงถูกจำกัดโดยเศรษฐกิจจีน ขณะที่เศรษฐกิจฝั่งยุโรป ยังคงวนเวียนอยู่กับปัญหาเศรษฐกิจเดิมๆ
         
        สำหรับแนวโน้มผลผลิตของไทย ในภาพรวมคาดว่า ปริมาณผลผลิตลดลง ทั้งนี้ เนื่องจากราคายางที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เกษตรกรขาดแรงจูงใจที่จะเร่งกรีดยาง ประกอบกับหลายพื้นที่ในแถบภาคเหนือ และอีสานประสบปัญหาภัยแล้ง และที่สำคัญตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย ซึ่งถือเป็นที่ปลูกยางพาราหลักของพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด เริ่มกลับมาเปิดกรีดยางรอบใหม่ช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา หลังจากทิ้งช่วงผลัดใบยางพารามาระยะหนึ่ง
         
        สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยไตรมาสที่ 2/2015 คาดว่า ปริมาณการส่งออกของไทยขยายตัวในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสล่าสุด ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปริมาณผลผลิตที่ลดลง ขณะที่บทบาทของไทยในการเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลก อาจลดความสำคัญลงจากการที่หลายประเทศหันไปปลูกยางพารา และเริ่มเก็บผลผลิตได้เพิ่มขึ้น บวกกับตัวเลขเศรษฐกิจโลกที่เริ่มชะลอตัวลง และทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา อาจเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกอย่างมีนัยสำคัญ
         
        อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะเกิดขึ้นปลายเดือนนี้ น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางค่าเงินที่ช่วยหนุนการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้น
         
        ส่วนแนวโน้มราคายางในประเทศ คาดว่าจะยังคงเคลื่อนไหวขึ้นลงอยู่ในกรอบแคบๆ มีแนวโน้มขยับลงในช่วงปลายไตรมาส ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน จากปริมาณผลผลิตโดยรวมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากผ่านพ้นช่วงผลัดใบยางพารา ประกอบกับในหลายพื้นที่จะเริ่มมีฝนตกลงมาบ้าง ซึ่งจะช่วยคลายความแห้งแล้ง และส่งผลทำให้ผลิตน้ำยางได้เพิ่มขึ้น