ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มีนาคม 17, 2015, 11:32:21 AM »วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558
ปัจจัย
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
- ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้มีฝนฟ้าคะนองกับลมกรรโชกแรงเกิดขึ้นบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีอากาศร้อนในตอนกลางวันและมีเมฆบางส่วน ขณะที่แหล่งข่าวรายงานว่าพื้นที่ปลูกยางหยุดกรีดประมาณร้อยละ 70 ? 80
2. การใช้ยาง
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชีย - โอเชียเนีย โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาอย่างจีนและอินเดีย อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนการผลิตต่ำ และความต้องการรถบรรทุกทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นมาก จึงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาดยางล้อรถยนต์ในประเทศเหล่านี้ และคาดว่าช่วงระหว่างปี 2557 - 2562 ตลาดยางล้อในภูมิภาคเอเชีย - โอเชียเนีย จะเติบโตร้อยละ 6.16
3. เศรษฐกิจโลก
- ธนาคารกลางรัสเซียเผยเศรษฐกิจหดตัวร้อยละ 0.7 ในไตรมาสแรก แต่แนวโน้มของเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มที่ดีกว่าการคาดการณ์ส่วนใหญ่ และเศรษฐกิจรัสเซียอาจจะขยายตัวได้ร้อยละ 0.6 ในไตรมาส 2
- นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกต่างจับตาดูการประชุมของธนาคารคกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17 - 18 มีนาคม 2558 อย่างใกล้ชิด หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากข้อมูลแรงงานเดือนกุมภาพันธ์ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
- จีนส่งสัญญาณเรื่องการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อรักษาระดับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และฟื้นฟูอุปสงค์ที่ซบเซาในภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภค ภายหลังจากที่การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ได้มีการเรียกร้องให้รักษาระดับการขยายตัวของเศรษฐกิจไว้ที่ร้อยละ 7.0 รวมทั้งการร่างงบประมาณการใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการขยายตัวดังกล่าว
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB.) เปิดเผยว่า ECB. ได้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนคิดเป็นเงินรวม 9.751 พันล้านยูโร (1.030 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ) ในช่วงสัปดาห์แรกของโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งเริ่มต้นในวันที่ 9 มีนาคม 2558 ซึ่งจะช่วยให้ค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมของรัฐบาลลดลง และทำให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำลง ส่งผลให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงและช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รายงานว่าเดือนกุมภาพันธ์ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 จากการทรุดตัวของการผลิตรถยนต์ โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 0.2 หลังจากลดลงร้อยละ 0.3 ในเดือนมกราคม
- ธนาคากลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมเดือนมีนาคมปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 สู่ระดับ 6.9 จาก 7.78 ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อใหม่ที่หดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556
4. อัตราแลกเปลี่ยน
- เงินบาทอยู่ที่ 32.93 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.02 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 121.44 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.17 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
5. ราคาน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดตลาดที่ 43.88 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.96 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานในตลาดโลกที่สูงขึ้นมาก
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดที่ 53.44 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.23 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- กลุ่มผู้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ออกรายงานประจำเดือนระบุว่า ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ จะถูกกระทบในปลายปีนี้ ซึ่งโอเปคจะรอการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อดูว่าการทรุดตัวของราคาน้ำมันได้เริ่มส่งผลกระทบต่อการผลิต Shale Oil ของสหรัฐฯ หรือไม่
6. การเก็งกำไร
- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนเมษายน อยู่ที่ 220.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 2.8 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 211.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.8 เยนต่อกิโลกรัม
- ตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 172.5 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
7. ข่าว
- โฆษกรัฐบาลเยอรมันกล่าวว่า เยอรมันยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะให้กรีซอยู่ในยูโรโซนต่อไป หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเยอรมันกล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ที่กรีซอาจออกจากยูโรโซน
- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐฯ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนมีนาคมปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 จาก 55.0 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 3 แต่ยังชี้ให้เห็นถึงมุมมองด้านบวกต่อตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ
8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
- ราคายางปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตยางมีน้อยจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้หลายพื้นที่ต้องหยุดกรีดยางเร็วขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความต้องการซื้อเพื่อเก็บสต๊อคและส่งมอบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ซื้อยางได้น้อยเพราะต้องแข่งขันกับองค์การสวนยาง
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว จากการอ่อนค่าของเงินเยนและเงินบาท ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากอุปทานยางออกสู่ตลาดลดลงตามฤดูกาล และนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น รวมถึงยางพาราด้วย หลังจากมีรายงานว่าธนาคารกลางยุโรปได้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนจำนวนเกือบ 1 หมื่นล้านยูโรในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันจีนส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อรักษาระดับการขยายตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีอย่างต่อเนื่อง ยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคายางได้ในระดับหนึ่ง
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา