ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2015, 01:40:29 PM »ชาวสวนยางใต้กังวลปัญหาราคายางหลังขาดเสถียรภาพจนต้องหยุดรับซื้อชั่วคราว
ชุมนุมสหกรณ์การยางจังหวัดในภาคใต้หลายแห่งหยุดการรับซื้อยางพาราชั่ว คราว เนื่องจากเกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินที่รับซื้อตามโครงการสร้างมูลภัณฑ์ กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางพาราในภาคใต้ เพื่อลดปริมาณยางในสต๊อกและเลดปัญหาขาดแคลนสถานที่จัดเก็บ บางแห่งต้องทยอยชำระเงินให้เกษตรกรล่าช้าออกไป 3-4 วัน
นายสมชาย ณ ประดิษฐ์ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์การยางกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยมีการคัดแยกยางแผ่นดิบกว่า 200 ตัน เพื่อเข้าสู่กระบวนการอัดแท่ง เพื่อเตรียมส่งขายตลาดกลางยางพาราจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังได้เปิดจุดรับซื้อตามโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคา ยางพารา และมีการนัดชำระเงินให้เกษตรกรภายหลังจากการขายยางได้แล้ว 3-4 วัน
ส่วนบรรยากาศการรับซื้อยางพาราแผ่นดิบที่จังหวัดตรังในวันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2558) เป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังจากได้หยุดการรับซื้อเพื่อลดปริมาณยางที่จะเข้ามาในสต๊อกประมาณวันละ 200 ตัน/ เนื่องจากไม่มีโกดังเก็บและขาดสภาพคล่องทางการเงิน
ด้านนายพรหมชาติ อ่อนสนิท ชาวสวนยางจังหวัดตรังกังวลว่า หากรัฐบาลไม่เร่งระบายยางพาราออกสู่ตลาด อาจทำให้ราคาต่ำลงไปมากกว่านี้
ขณะที่สหกรณ์กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางหลายแห่งในจังหวัดสงขลา ต้องเพิ่มห้องรมยาง เพื่อให้สามารถนำน้ำยางสดเข้าสู่กระบวนการผลิตยางแผ่นรมควันให้ได้เพิ่มขึ้น มิฉะนั้นต้องส่งน้ำยางสดส่วนที่เกินกำลังผลิต เข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม ทำให้สหกรณ์ประสบปัญหาขาดทุน เพราะต้องรับซื้อน้ำยางสดจากสมาชิก ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด
สำนักข่าวไทย
ชุมนุมสหกรณ์การยางจังหวัดในภาคใต้หลายแห่งหยุดการรับซื้อยางพาราชั่ว คราว เนื่องจากเกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินที่รับซื้อตามโครงการสร้างมูลภัณฑ์ กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางพาราในภาคใต้ เพื่อลดปริมาณยางในสต๊อกและเลดปัญหาขาดแคลนสถานที่จัดเก็บ บางแห่งต้องทยอยชำระเงินให้เกษตรกรล่าช้าออกไป 3-4 วัน
นายสมชาย ณ ประดิษฐ์ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์การยางกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยมีการคัดแยกยางแผ่นดิบกว่า 200 ตัน เพื่อเข้าสู่กระบวนการอัดแท่ง เพื่อเตรียมส่งขายตลาดกลางยางพาราจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังได้เปิดจุดรับซื้อตามโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคา ยางพารา และมีการนัดชำระเงินให้เกษตรกรภายหลังจากการขายยางได้แล้ว 3-4 วัน
ส่วนบรรยากาศการรับซื้อยางพาราแผ่นดิบที่จังหวัดตรังในวันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2558) เป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังจากได้หยุดการรับซื้อเพื่อลดปริมาณยางที่จะเข้ามาในสต๊อกประมาณวันละ 200 ตัน/ เนื่องจากไม่มีโกดังเก็บและขาดสภาพคล่องทางการเงิน
ด้านนายพรหมชาติ อ่อนสนิท ชาวสวนยางจังหวัดตรังกังวลว่า หากรัฐบาลไม่เร่งระบายยางพาราออกสู่ตลาด อาจทำให้ราคาต่ำลงไปมากกว่านี้
ขณะที่สหกรณ์กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางหลายแห่งในจังหวัดสงขลา ต้องเพิ่มห้องรมยาง เพื่อให้สามารถนำน้ำยางสดเข้าสู่กระบวนการผลิตยางแผ่นรมควันให้ได้เพิ่มขึ้น มิฉะนั้นต้องส่งน้ำยางสดส่วนที่เกินกำลังผลิต เข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม ทำให้สหกรณ์ประสบปัญหาขาดทุน เพราะต้องรับซื้อน้ำยางสดจากสมาชิก ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด
สำนักข่าวไทย