ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2014, 02:57:47 PM »สมรภูมิ "ยางถูก ลูกอด" (19/12/2557)
ไม่ใช่หมอดู แต่ขอทำนายว่า ปีหน้ารัฐบาล "บูรพาพยัคฆ์" จะต้องเผชิญหน้ากับ "กองทัพยางขี้พรก"
(ขี้ยางพรก คือน้ำยางพาราแห้งติดกะลามะพร้าว ลอกออกเป็นเศษยางไปขายได้ แต่มีราคาต่ำ)
ในสถานการณ์"ยางถูก ลูกอด รถถูกยึด"หรือ"ยางสามโลร้อย"คงไม่ใช่เรื่องการเล่นคำ เล่นโวหาร หากผู้นำการรัฐประหาร คิดว่ามีดาบ"อัยการศึก"อยู่ในมือแล้ว จะไม่มีใครกล้าลุกฮือ"ปิดถนน"หรือ"ปิดทางรถไฟ"เหมือนสมัยรัฐบาลที่แล้ว
วันก่อนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวทีเปิดงาน"คืนความสุขให้เธอ..เยาวชน"ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ ปราม"ม็อบยาง"อยู่ในที ทำนองว่า"มีแต่คนไปปลุกระดมสร้างความเข้าใจผิดมาตลอด"
ด้วยความหวาดระแวงชาวสวนยางนี้เอง ทหารในค่ายวิภาวดี สุราษฎร์ธานี จึงเรียกแกนนำ "แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง" ไปรายงานตัวและปรับทัศนคติ กรณีไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557
ตรงกันข้าม กรณี มนูญ อุปลา ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราสุราษฎร์ธานี เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางรองผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผู้บังคับการจังหวัดทหารบก จ.สุราษฎร์ กลับไม่มีการเรียกตัวเข้าค่ายทหาร เหมือนกลุ่มแรก
ดั่งที่ทราบกัน "มนูญ" เป็นแกนนำชาวสวนยางเครือข่ายสาย "โคออฟ" ที่เคยนำมวลชนปิดถนนสายเอเชียในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาแล้วพูดกันตามตรง "รัฐบาลประยุทธ์" เริ่มไม่วางใจในการเคลื่อนไหวของ "ชาวสวนยาง" ที่ไม่อยู่ในเครือข่าย "หลวงลุงกำนัน"
โดยเฉพาะผู้ชายคนนี้"สุนทร รักษ์รงค์"ผู้ออกแบบแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง และเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เคลื่อนไหวเรียกร้องให้การแก้ไขปัญหา ราคายางตกต่ำ และขอมีส่วนร่วมใน พรบ.การยางแห่งประเทศไทย
"สุนทร" เป็นเอ็นจีโอ และทำงานภาคประชาชนในพื้นที่ภาคใต้มายาวนาน เรียกว่าผ่านสมรภูมิการต่อสู้บนท้องถนนมาโชกโชน ตั้งแต่ "ม็อบเสื้อเหลือง","ม็อบ เสธ.อ้าย" จนถึง "ม็อบเสื้อฟ้า"ล่าสุด "สุนทร" โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊คด้วยความเป็นห่วงนายกฯ ประยุทธ์ จะได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องว่า"มาตรการเดิมของรัฐบาลไม่สามารถแก้ ปัญหาวิกฤติราคายางพาราตกต่ำได้เลย สรุปไม่ได้ผลเปลืองงบประมาณไปโดยใช่เหตุหลายหมื่นล้านบาท และไม่ทำให้ชาวสวนยางพ้นจากความทุกข์ เพราะชุดความคิดของหม่อยอุ๋ย รองนายกฯ คิดแบบผู้ปกครอง คือสั่งการเพื่อช่วยผู้ใต้ปกครอง ไม่ได้คิดจากฐานล่างที่มีความรู้จริงเรื่องยางพารา"สุนทรยังชี้ว่า"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ก็ยึดติดกับระบบราชการ คือคิดนอกกรอบไม่เป็น และสร้างเกมรุกเรื่องยางไม่ได้ เลยสู้พ่อค้าไม่ได้"
สรุปว่า แกนนำชาวสวนยาง ต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวทีมเศรษฐกิจรัฐบาลประยุทธ์ ที่นำโดยม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุลเพราะพวกเขาเห็นว่า หมดปัญหาบริหารจัดการข้าราชการให้ทำตามมติ ครม.ที่ให้ช่วยเหลือชาวสวนยางอย่างเร่งด่วน ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน
ผู้ก่อตั้งแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง จึงคาดการณ์ว่า "ปีหน้าที่จะถึงอันใกล้นี้ การเคลื่อนไหวของชาวสวนยางทั่วประเทศ จะลุกลามบานปลาย และสั่นคลอนความมั่นคงของรัฐบาลมากที่สุด เพราะขั้วอำนาจเก่าเข้ามาผสมโรง ปัญหาราคายางจากแค่เป็นประเด็นเรื่องปากท้อง จะกลายเป็นปัญหาการเมืองทันที"
จะว่าไปแล้ว องค์กรที่เป็นตัวแทนชาวสวนยางมีมากมายในระดับท้องถิ่น แต่ระดับประเทศที่คนรู้จักกันบ้างได้แก่ สหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย,เครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย,สภาการยางพาราแห่งประเทศไทย และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่ทหารจับตาเป็นพิเศษคือ"สมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อยแห่งประเทศไทย"ที่มี มนัส บุญพัฒน์ เป็นนายกสมาคม เพราะองค์กรใหม่ป้ายแดงนี้ ก่อเกิดมาจากแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางเนื่องจากคนสวนยางชายขอบ ไม่มีที่ดินทำกิน รับจ้างกรีดยาง จึงได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดแรงบีบคั้นจาก "ยางถูก ลูกอด" จะบีบบังคับให้พวกเขา ต้องลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจ "คสช." โดยไม่หวั่นกลัวกฎอัยการศึก
ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 19 ธันวาคม 2557)
ไม่ใช่หมอดู แต่ขอทำนายว่า ปีหน้ารัฐบาล "บูรพาพยัคฆ์" จะต้องเผชิญหน้ากับ "กองทัพยางขี้พรก"
(ขี้ยางพรก คือน้ำยางพาราแห้งติดกะลามะพร้าว ลอกออกเป็นเศษยางไปขายได้ แต่มีราคาต่ำ)
ในสถานการณ์"ยางถูก ลูกอด รถถูกยึด"หรือ"ยางสามโลร้อย"คงไม่ใช่เรื่องการเล่นคำ เล่นโวหาร หากผู้นำการรัฐประหาร คิดว่ามีดาบ"อัยการศึก"อยู่ในมือแล้ว จะไม่มีใครกล้าลุกฮือ"ปิดถนน"หรือ"ปิดทางรถไฟ"เหมือนสมัยรัฐบาลที่แล้ว
วันก่อนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวทีเปิดงาน"คืนความสุขให้เธอ..เยาวชน"ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ ปราม"ม็อบยาง"อยู่ในที ทำนองว่า"มีแต่คนไปปลุกระดมสร้างความเข้าใจผิดมาตลอด"
ด้วยความหวาดระแวงชาวสวนยางนี้เอง ทหารในค่ายวิภาวดี สุราษฎร์ธานี จึงเรียกแกนนำ "แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง" ไปรายงานตัวและปรับทัศนคติ กรณีไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557
ตรงกันข้าม กรณี มนูญ อุปลา ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราสุราษฎร์ธานี เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางรองผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผู้บังคับการจังหวัดทหารบก จ.สุราษฎร์ กลับไม่มีการเรียกตัวเข้าค่ายทหาร เหมือนกลุ่มแรก
ดั่งที่ทราบกัน "มนูญ" เป็นแกนนำชาวสวนยางเครือข่ายสาย "โคออฟ" ที่เคยนำมวลชนปิดถนนสายเอเชียในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาแล้วพูดกันตามตรง "รัฐบาลประยุทธ์" เริ่มไม่วางใจในการเคลื่อนไหวของ "ชาวสวนยาง" ที่ไม่อยู่ในเครือข่าย "หลวงลุงกำนัน"
โดยเฉพาะผู้ชายคนนี้"สุนทร รักษ์รงค์"ผู้ออกแบบแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง และเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เคลื่อนไหวเรียกร้องให้การแก้ไขปัญหา ราคายางตกต่ำ และขอมีส่วนร่วมใน พรบ.การยางแห่งประเทศไทย
"สุนทร" เป็นเอ็นจีโอ และทำงานภาคประชาชนในพื้นที่ภาคใต้มายาวนาน เรียกว่าผ่านสมรภูมิการต่อสู้บนท้องถนนมาโชกโชน ตั้งแต่ "ม็อบเสื้อเหลือง","ม็อบ เสธ.อ้าย" จนถึง "ม็อบเสื้อฟ้า"ล่าสุด "สุนทร" โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊คด้วยความเป็นห่วงนายกฯ ประยุทธ์ จะได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องว่า"มาตรการเดิมของรัฐบาลไม่สามารถแก้ ปัญหาวิกฤติราคายางพาราตกต่ำได้เลย สรุปไม่ได้ผลเปลืองงบประมาณไปโดยใช่เหตุหลายหมื่นล้านบาท และไม่ทำให้ชาวสวนยางพ้นจากความทุกข์ เพราะชุดความคิดของหม่อยอุ๋ย รองนายกฯ คิดแบบผู้ปกครอง คือสั่งการเพื่อช่วยผู้ใต้ปกครอง ไม่ได้คิดจากฐานล่างที่มีความรู้จริงเรื่องยางพารา"สุนทรยังชี้ว่า"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ก็ยึดติดกับระบบราชการ คือคิดนอกกรอบไม่เป็น และสร้างเกมรุกเรื่องยางไม่ได้ เลยสู้พ่อค้าไม่ได้"
สรุปว่า แกนนำชาวสวนยาง ต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวทีมเศรษฐกิจรัฐบาลประยุทธ์ ที่นำโดยม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุลเพราะพวกเขาเห็นว่า หมดปัญหาบริหารจัดการข้าราชการให้ทำตามมติ ครม.ที่ให้ช่วยเหลือชาวสวนยางอย่างเร่งด่วน ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน
ผู้ก่อตั้งแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง จึงคาดการณ์ว่า "ปีหน้าที่จะถึงอันใกล้นี้ การเคลื่อนไหวของชาวสวนยางทั่วประเทศ จะลุกลามบานปลาย และสั่นคลอนความมั่นคงของรัฐบาลมากที่สุด เพราะขั้วอำนาจเก่าเข้ามาผสมโรง ปัญหาราคายางจากแค่เป็นประเด็นเรื่องปากท้อง จะกลายเป็นปัญหาการเมืองทันที"
จะว่าไปแล้ว องค์กรที่เป็นตัวแทนชาวสวนยางมีมากมายในระดับท้องถิ่น แต่ระดับประเทศที่คนรู้จักกันบ้างได้แก่ สหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย,เครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย,สภาการยางพาราแห่งประเทศไทย และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่ทหารจับตาเป็นพิเศษคือ"สมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อยแห่งประเทศไทย"ที่มี มนัส บุญพัฒน์ เป็นนายกสมาคม เพราะองค์กรใหม่ป้ายแดงนี้ ก่อเกิดมาจากแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางเนื่องจากคนสวนยางชายขอบ ไม่มีที่ดินทำกิน รับจ้างกรีดยาง จึงได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดแรงบีบคั้นจาก "ยางถูก ลูกอด" จะบีบบังคับให้พวกเขา ต้องลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจ "คสช." โดยไม่หวั่นกลัวกฎอัยการศึก
ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 19 ธันวาคม 2557)