ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2014, 02:52:37 PM »

กลุ่มบริษัท Reliance และ Sibur ร่วมมือกันตั้งโรงงานผลิตยางที่รัฐ Gujarat (19/12/2557)


สำนักข่าว The Financial Express รายงานว่า กลุ่มบริษัท Reliance Industries ของอินเดีย ทำความร่วมมือกับ บริษัท Sibur ของรัสเซียในการตั้งโรงงานผลิตยางบิวทิลในรัฐ Gujarat ประเทศอินเดีย  ข้อตกลงร่วมกันนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาในระหว่างการเดินทางมาเยือนประเทศอินเดียของประธานาธิบดี Vladimir Putin ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา (10 ธ.ค.)


ในขณะนี้ Reliance ซึ่งมีนาย Mukesh Ambani เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีโรงงานผลิตบีอาร์ ที่ตั้งอยู่ในเมือง Vadodara สามารถผลิตยางบีอาร์ได้ประมาณ 80,000 ตันต่อปี เมื่อปี 2555 บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท Sibur ของรัสเซียตั้งโรงงานผลิตยางบิวทิลในรัฐ Gujarat โดยได้มีการลงนามร่วมกันระหว่าง 2 บริษัทในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ภายใต้ชื่อบริษัท Reliance Sibur Elastomer Private โดย Reliance เป็นผู้ถือหุ้น 25.1%  การร่วมทุนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอุปกรณ์การผลิตยางบิวทิลในโรงงานที่อยู่ในเมือง Jamnagar เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ถึง 120,000 ตันต่อปี


แหล่งข่าวระบุว่า โครงการนี้อยู่ในขั้นการออกแบบและการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2559 ซึ่งขณะนี้ในอินเดียกำลังมีกระแสการยื่นประกวดราคาสำหรับสำหรับกระบวนการทางเทคโนโลยีปิโตรเคมีใหม่ซึ่งจัดโดยบริษัท ONGC บริษัท GAIL และบริษัทอื่นๆ ปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกำลังเติบโตเนื่องจากอุตสาหกรรมกำลังพัฒนา และในอนาคตอันใกล้นี้ อินเดียต้องการเพิ่มปริมาณการนำเข้าด้วย


จากการวิเคราะห์ตลาดอินเดีย พบว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์อิลาสโตเมอร์มากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ความต้องการของจีนและอินเดียเติบโตในอัตราที่เร็วกว่าสหรัฐฯ ที่มีความต้องการทรงตัว ส่วนความต้องการยางสังเคราะห์นั้น พบว่า อินเดียมีปริมาณความต้องการใช้ยางสังเคราะห์มากกว่าเดิม 2 เท่า เมื่อเทียบกับ 2-3 ปีก่อน








ที่มา: http://rubberjournalasia.comm, 10/12/2014