ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2014, 12:12:44 PM »
แก้วสรรตามจี้นายกฯ เรียกค่าสินไหมยิ่งลักษณ์ จำนำข้าวจนชาติเจ๊ง
ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2557
แก้วสรรตามจี้นายกฯ
เรียกค่าสินไหมยิ่งลักษณ์
จำนำข้าวจนชาติเจ๊ง
เกษตรปูดพิรุธยางตก
พ่อค้ารวมหัวกดราคา
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต สว.กทม. แกนนำกลุ่มไทยสปริง นำตัวแทนเครือข่ายต่างๆ อาทิ ชมรมวิศวะฯ จุฬาฯร่วมปฎิรูปประเทศไทย (วศ.รปปท.) เครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฎิรูปประเทศไทยเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกพร้อมรายชื่อประชาชน 10,836 ชื่อ ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เร่งดำเนินคดีกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาลที่แล้ว โดยเรียกค่าสินไหมทดแทนความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดยมีพล.อ.สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายแก้วสรรกล่าวว่า การที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์บริหารงานด้วยความประมาทอย่างร้ายแรงจากโครงการรับจำนำข้าว ทำให้ขาดทุนกว่า 5.1 แสนล้านบาท ควรแสดงความรับผิดชอบไม่ใช่ผลักปัญหาพ้นตัวและใช้วิธีเก็บภาษีจากประชาชนเพิ่ม ซึ่งจากการศึกษาทางกฎหมาย นายกรัฐมนตรีสามารถตั้งคณะทำงานตรวจสอบความเสียหายและฟ้องดำเนินคดี โดยมีอายุความ 2 ปี ทำให้ตนต้องจัดตั้งกลุ่มไทยสปริงส์ร่วมกับกลุ่มพลเมืองอื่นๆ รณรงค์ให้ประชาชนลงชื่อผ่านเว็บไซต์ ?ตู่ฟ้องปู? เพื่อทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินกับรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซื่งการรณรงค์เสร็จสิ้นวันนี้ มีประชาชนร่วมลงชื่อผ่านเว็บไซต์ของเครือข่าย 10,836 รายชื่อ พร้อมส่งความคิดเห็นกว่า 4,000 ราย มามอบให้สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมอบต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป พร้อมกันนี้ ยังได้ส่งข้อมูลให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นฝ่ายที่รับผิดชอบโดยตรง
สำหรับความคืบหน้าการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำนั้น พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียืนยันว่า วันที่ 26 ธันวาคมซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปจ.พังงา เพื่อร่วมงานรำลึก 10 ปี เหตุการณ์สึนามิ นายกฯจะเดินทางไปพูดคุยกับชาวสวนยางกรณีราคายางตกต่ำ การสร้างศูนย์แปรรูปยางพาราครบวงจร (Rubber city)การเชื่อมท่าเรือปากบารา การเจรจาสันติภาพกับมาเลเซีย ซึ่งแต่ละประเด็นต้องพูดคุยเชิงลึก
แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงเกษตรฯเปิดเผยถึงการตรวจสอบราคายางช่วงที่ผ่านมา พบว่าราคารับซื้อยางในประเทศตกลงต่อเนื่องตั้งแต่ ปี2556 โดยในช่วงที่มีการชุมนุมประท้วงทางการเมืองและการทำรัฐประหาร ภาคเอกชน กลุ่มนักธุรกิจยางขอให้รัฐบาลยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมการส่งออกยางกก.ละ 1.4 บาท โดยอ้างว่าไม่สามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลยอมตามข้อเสนอ และในช่วงดังกล่าวตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556 -มกราคม 2557 ตัวเลขการผลิตยาง ของสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร พบการผลิตยางสูงผิดปกติ มากถึง 3.7 แสนตัน และส่งออกกว่า 3.1 แสนตัน ซึ่งหากเก็บเงินค่าธรรมเนียมส่งออกจากเอกชนจะมีรายได้ เข้ารัฐได้กว่า 1.044 หมื่นล้านบาท อีกทั้ง การส่งออกยางดังกล่าวพบส่งไปยังประเทศลาว เวียดนาม ที่ไม่มีการใช้ยางจริง แต่พบว่ามีบริษัทเอกชนหลายราย ที่ส่งออกยางมีบริษัทยาง และมีโกดังเก็บสต๊อกยางใน 2 ประเทศดังกล่าว จึงน่าจะไม่มีการสั่งซื้อหรือส่งออกจริง เพียงแต่ย้ายสต๊อกไปเตรียมรอที่จะส่งออกไปจีนในช่วงที่เก็บเงินค่าธรรมเนียมส่งออกปกติ ทำให้ต่อมาเอกชนไม่ยอมรับซื้อยางจากเกษตรกรราคายางจึงตกลงต่อเนื่อง
?และการที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเอกชน โดยให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเข้าไปรับซื้อยางน่าจะผิดวิธี อีกทั้ง สาเหตุที่ยางราคาตกต่ำน่าจะไม่ใช่เพราะราคาน้ำมันที่ลดลง แต่เป็นเรื่องพ่อค้ารวมหัวกดราคารับซื้อยางเข้าสต๊อก แทนการยืม ไปส่งออก ล่าสุดรมว.เกษตรฯเรียกผู้ประกอบการยางมาหารือ และกำชับให้รับซื้อยางพร้อมขอร้องอย่ากดราคารับซื้อจากเกษตรกร ถ้าไม่ทำตามจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ด้วยการตรวจเอกสารนำเข้าย้อนหลัง และตรวจสต๊อกทั้งหมด?แหล่งข่าวระบุ
ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า การแก้ปัญหาราคายางยากจะประสบความสำเร็จ เพราะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจส่งออกยางไปลาว และเวียดนาม เพื่อเตรียมส่งออกจีน ล้วนมีที่ปรึกษาบริษัทเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงกระทรวงเกษตรที่เคยดูแลเรื่องยางทั้งสิ้น
