ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ตุลาคม 28, 2014, 07:14:47 AM »เกษตรเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่งออกยาง 2 บาท
วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2014 เวลา 09:39 น.
นายประสิทธิ์ หมีดเส็น รักษาการผู้อำนวยการกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาการจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมการส่ง ออกยาง (เงินเซส) ที่เหมาะสม ที่มีนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน มีมติให้คิดอัตราการจัดเก็บเงินเซสเพียงอัตราเดียว ที่อัตรา 2 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ จะทำรายละเอียดเสนอนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ ลงนามเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ ผลจากการลดการจัดเก็บเงินเซสดังกล่าวจะมี ผลให้ สกย.สามารถเก็บเงินค่าเข้ากองทุนได้ปีละ 7,000 ล้าน บาท โดยคาดการณ์จากปริมาณส่งออกยางที่ 3.5 ล้านตัน ต่อปี ทั้งนี้ เงินดังกล่าว สกย.จะใช้ในการดำเนินการ 3 ทาง คือ 1.ให้กรมวิชาการเกษตรเพื่อการวิจัยยาง 5% 2.เป็นงบ บริหาร สกย. 10% และ 3.เป็นกองทุนให้เกษตรกรโครงการ สวนยางทั้งหมด ซึ่งผลจากการปรับลดจะทำให้รายได้ลดลง และสำนักงบประมาณต้องสนับสนุนงบบริหารให้ สกย. ปีละประมาณ 800-1,000 ล้านบาท
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ (วันที่ 25 ตุลาคม 2557)
วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2014 เวลา 09:39 น.
นายประสิทธิ์ หมีดเส็น รักษาการผู้อำนวยการกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาการจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมการส่ง ออกยาง (เงินเซส) ที่เหมาะสม ที่มีนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน มีมติให้คิดอัตราการจัดเก็บเงินเซสเพียงอัตราเดียว ที่อัตรา 2 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ จะทำรายละเอียดเสนอนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ ลงนามเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ ผลจากการลดการจัดเก็บเงินเซสดังกล่าวจะมี ผลให้ สกย.สามารถเก็บเงินค่าเข้ากองทุนได้ปีละ 7,000 ล้าน บาท โดยคาดการณ์จากปริมาณส่งออกยางที่ 3.5 ล้านตัน ต่อปี ทั้งนี้ เงินดังกล่าว สกย.จะใช้ในการดำเนินการ 3 ทาง คือ 1.ให้กรมวิชาการเกษตรเพื่อการวิจัยยาง 5% 2.เป็นงบ บริหาร สกย. 10% และ 3.เป็นกองทุนให้เกษตรกรโครงการ สวนยางทั้งหมด ซึ่งผลจากการปรับลดจะทำให้รายได้ลดลง และสำนักงบประมาณต้องสนับสนุนงบบริหารให้ สกย. ปีละประมาณ 800-1,000 ล้านบาท
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ (วันที่ 25 ตุลาคม 2557)