ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กันยายน 16, 2014, 01:49:48 PM »

อสย.จ่อวืดขายยางสิงคโปร์แสนตัน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์  วันที่ 16 กันยายน 2557 10:22




อ.ส.ย.จ่อวืดสัญญาขายยางในสต็อก 1 แสนตัน หลังบริษัทสิงคโปร์ไม่มีเงินค้ำประกัน "ปีติพงศ์" รอถก กนย. วางมาตรการแก้ปัญหาทั้งระบบ พร้อมตั้งวอร์รูมเดินหน้าอย่างมีเอกภาพ


นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนภาคเกษตรกร อุตสาหกรรม ด้านยางทั้งระบบว่า ทุกฝ่ายมีความกังวลถึงปัญหาราคายางตกต่ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกยางโดยตรง และมีความเห็นตรงกันในแนวทางการแก้ไขที่จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ชุดใหม่ ที่คาดว่าจะแต่งตั้งและประชุมได้ใน 2 สัปดาห์หน้า


ทั้งนี้แนวทางที่แก้ไขปัญหาในระยะสั้นได้ คือ 1. ต้องหาแนวทางการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น ในกิจกรรมต่างๆ ของหน่วยงานรัฐ ไม่เพียงแต่การสร้างถนน ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ แต่มีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากที่สามารถทำได้ทันที เช่น การอิฐบล็อกทำพื้น กันกระแทก ฝาย เป็นต้น รวมทั้งผลักดันให้มีการโค่นยางตามแผนที่กำหนดไว้เพื่อลดปริมาณน้ำยางที่ออกสู่ตลาด


3. ผลักดันให้เงินกู้ 3 หมื่นล้านบาทให้ถึงมือสถาบันเกษตรกรให้เร็วที่สุด เพื่อให้สามารถรับซื้อยางจากเกษตร นำมาแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน ยางแท่งเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้นอีกทั้งยังเป็นการดึงปริมาณน้ำยางในตลาดได้เร็วด้วย ทั้งหมดนี้จะต้องดำเนินการให้เห็นผลใน 2 เดือนนี้เพื่อจะส่งผลให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับ


นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางทั้งระบบอย่างเป็นเอกภาพ กระทรวงเกษตรฯจะตั้งวอร์รูม ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่รับเรื่องราวนำมาพิจารณาและแก้ไขปัญหาในทิศทางเดียวกัน โดยมีนายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เป็นประธาน ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้นโยบายทางด้านยางเดินหน้าต่อไปได้เร็วขึ้น ยางจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน ต.ค. นี้เป็นต้นไปและจะออกสู่ตลาดมากในช่วง พ.ย.- ธ.ค.


นายชนะชัย เปล่งศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง (อ.ย.ส.) กล่าวว่า การระบายยาง 2.08 แสนตันในสต็อกรัฐยังเดินหน้า โดยสัญญาซื้อ-ขายยางกับบริษัทสิงคโปร์ ยังคงดำเนินการอยู่ โดยในเดือน ก.ย. นี้ เป็นรอบแรกที่บริษัทดังกล่าวจะจ่ายเงินและส่งมอบยางในสต็อก ซึ่งการส่งมอบทั้งหมดจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน


ส่วนกรณีที่ระบุว่ามีการยกเลิกการซื้อขายดังกล่าวนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แม้ทางบริษัทสิงคโปร์จะยังไม่มีการเปิดแอล/ซี แต่ผู้ซื้อสามารถจ่ายเงินสดและรับรองไปได้ทันที


แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรฯ แจ้งว่า สัญญาซื้อขายยางในสต็อกล็อตแรก 1 แสนตันกับบริษัทสิงคโปร์นั้น มีการยกเลิกไปแล้วโดยปริยาย เนื่องจากผู้ซื้อไม่สามารถนำสัญญาค้ำประกัน และเปิดแอลซีได้ และในระหว่างนี้มีบริษัท เอ็ม ที อินเตอร์เทรด จากไห่หนานของจีน เข้ามาติดต่อรับซื้อเสนอราคาสูงกก.ละ 65 บาท