ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กันยายน 16, 2014, 05:25:00 AM »


เกษตรฯเสนอ3มาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหายางพารา
15 กันยายน 2557 เวลา 21:54 น.


รมว.เกษตรฯเผยเตรียมเสนอ 3 เรื่องเร่งด่วนให้กนย.พิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหายางพารา พร้อมลดปริมาณออกสู่ตลาด


นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังตัวแทนเครือข่ายยางพาราทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้แปรรูปยาง เข้าพบว่า กระทรวงเกษตรฯจะเสนอ 3 เรื่องเร่งด่วน ให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) พิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหายางพารา


มาตรการเร่งด่วน 3 มาตรการ คือ 1. การขอให้มีการใช้ยางพาราในภาครัฐเพิ่มขึ้นโดยให้นำงานวิจัยของราชการมาพิจารณา เพื่อเพิ่มการใช้ยางดิบในประเทศ และเร่งโค่นยางเก่าเพื่อลดปริมาณผลผลิต 2. เร่งรัดให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) ปล่อยสินเชื่อ 3 หมื่นล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้สถาบันเกษตรและผู้ประกอบการกู้ไปเพื่อเพิ่มมูลค่ายางพารา โดยให้ครอบคลุมถึงวิสาหกิจชุมชนด้วยเพิ่มเติมจากเดิมที่จะเน้นเฉพาะสหกรณ์และสถาบันเกษตรกร และ 3.การส่งเสริมให้มีการตลาดซื้อยางจริงระหว่างเกษตรและผู้ใช้ยางให้เกิดขึ้นให้ได้


ขณะที่มาตรการอื่นที่จะต้องดำเนินการควบคู่กันไป เช่น การโค่นยางเก่าให้เกษตรกรปลูกพืชอื่นเพื่อลดปริมาณยางออกสู่ตลาด การหารือระหว่างประเทศผู้ผลิตยางในการร่วมมือสร้างสต๊อกยางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยพิจารณาปริมาณยางที่เหมาะสมร่วมกัน ส่วนเรื่องของสต๊อกเป็นภาระที่รัฐบาลจะต้องเร่งหามาตรการแก้ไขต่อไป รวมถึงในกระทรวงเกษตรฯเองจะมีการตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์ยางอย่างใกล้ชิด


นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาการยาง กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคายางพารา เพราะราคาต่ำสุดในรอบ7 ปี โดยราคายางในตลาดลดลงเหลือ 4 กิโลกรัม 100 บาทแล้ว หากรัฐบาลร่วมมือกับเกษตรกรวางยุทธศาสตร์และแก้ไขเร่งด่วนจะสามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะตลาดซื้อขายยางจริง เพื่อป้องกันการกดราคาของพ่อค้าผู้ส่งออก


ขณะเดียวกันเห็นว่ายางในสต็อก 2 แสนตัน ยังไม่ควรระบาย แต่หากจะขายควรขายราคาถูกให้เกษตรกร เพื่อนำมาแปรรูปเป็นการส่งเสริมอาชีพในท้องถิ่น และตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานยางในอาเซียน ซึ่งก่อนหน้านี้พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับปากแล้วจะให้งบก้อนแรก 8,000 ล้านบาท


แหล่งข่าวในกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า การซื้อขายยางระหว่างองค์การสวนยาง (อสย.) กับบริษัทยี่ฟานเลียนยังอยู่ในระยะสัญญา 3 เดือนที่จะต้องขนยาง โดยบริษัทได้เปิดแอลซีกับอสย.แล้ว