วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
[/t] วิเคราะห์ | 1. สภาพภูมิอากาศ | - จากอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ประเทศไทยมีฝนกระจายและตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง | 2. การใช้ยาง | - แหล่งข่าววงการยางพาราเปิดเผยถึงสถานการณ์ยางพาราว่า จากการประชุมองค์กรความร่วมมือไตรภาคีด้านยาง (ITRC) ของ 3 ประเทศผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลก คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่ประชุมต่างหวั่นวิตกถึงผลผลิตส่วนเกินความต้องการของตลาดโลก หรือ Over Supply ปี 2558 อาจสูงถึง 1 ล้านตัน โดย Over Supply เริ่มเกิดขึ้นในปี 2555 ที่มีประมาณ 3 แสนตัน ขณะที่ปี 2554 มี Demand มากกว่า Supply ประมาณ 2 แสนตัน ทำให้ราคาปรับสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 180 บาท | 3. เศรษฐกิจโลก | - HSBC โฮลดิ้งส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จีนเมื่อเทียบเป็นรายปี จากเดิมร้อยละ 7.4 เป็นร้อยละ 7.5 หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่งเกินคาด โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เศรษฐกิจจีนได้ขยายตัวร้อยละ 7.4 จากปีก่อน - มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ คาดการณ์ว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของจีนจะขยับลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6.5 - 7.5 ในปี 2557 - 2558 ขณะที่แนวโน้มของการขยายตัวในระยะยาวขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการใช้นโยบาย คุมเข้มสินเชื่อ และจังหวะของการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง และมูดี้ส์ยังชี้ว่าอันดับความน่าเชื่อถือของจีนอยู่ที่ระดับ Aa3 และแนวโน้มที่มีเสถียรภาพนี้ได้รับปัจจัยหนุนจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ มหภาคของจีน รวมทั้งความสามารถในการรองรับกับปัจจัยด้านการคลังและปัจจัยจากต่างประเทศ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมิถุนายนปรับตัวลงมาอยู่ที่ +0.12 จุด จาก +0.16 ในเดือนพฤษภาคม แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ลดลงเล็กน้อย โดยมีปัจจัยถ่วงจากการผลิตที่ขยายตัวชะลอลง - ธนาคารกลางเยอรมันระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะงักงันในช่วงไตรมาส 2 โดยระบุถึงความตึงเครียดทางการเมืองทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยช่วงไตรมาสแรกผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เยอรมันขยายตัวร้อยละ 0.8 - สำนักงานสถิติแห่งชาติอิตาลีเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมหดตัวลงร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หลังจากที่ปรับตัวขึ้นร้อยละ 3.6 ในเดือนเมษายน | 4. อัตราแลกเปลี่ยน | - เงินบาทอยู่ที่ 31.88 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.22 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ - เงินเยนอยู่ที่ 101.49 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.20 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ | 5. ราคาน้ำมัน | - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดตลาดที่ 104.59 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.46 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจาก ความวิตกกังวลว่าอุปทานน้ำมันอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์รุนแรงในยูเครนและฉนวนกาซา | 6. การเก็งกำไร | - ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 190.1 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 2.8 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนธันวาคม อยู่ที่ 202.1 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 2.1 เยนต่อกิโลกรัม - ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 201.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 1.9 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม | 7. ข่าว | -ศูนย์ วิจัยดัชนีภาวะอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของจีนระบุว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรภาคอุตสาหกรรมเหล็กกล้าไตรมาส 2 ปี 2557 ลดลงร้อยละ 15.7 โดยดัชนีลดลงมาอยู่ที่ 95.0 จุด ลดลง 2.3 จุดจากไตรมาสแรก เนื่องจากภาวะตึงตัวด้านการเงินและอุปสงค์ที่ซบเซา ทั้งนี้อุตสาหกรรมเหล็กกล้ามีแนวโน้มขาดทุนนับตั้งแต่ปี 2555 โดยได้รับผลกระทบจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนตัว - รัฐมนตรีนโยบายเศรษฐกิจและการคลังญี่ปุ่นกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชิโสะ อาเบะ มีแนวโน้มจะพิจารณาขั้นสุดท้ายภายในต้นเดือนธันวาคมนี้ ว่าจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราภาษีการบริโภคระลอก 2 ในปีหน้าได้หรือไม่ | 8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ | - ราคายางยังคงปรับตัวลดลง เพราะตลาดต่างประเทศซบเซา ผู้ซื้อชะลอซื้อและซื้อในราคาต่ำ ขณะที่ผู้ขายก็ไม่อยากขายในราคาต่ำ จึงต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป | แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อและเทขายทำกำไร หลังจากมีกระแสข่าวผลผลิตยางส่วนเกินตลาดโลกปี 2558 จะสูงถึง 1 ล้านตัน และความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการเมืองทั่วโลกที่ทวีความรุนแรง ขึ้น ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าต่ำกว่าระดับ 32 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556 อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และผลผลิตที่ออกสู่ตลาดไม่เต็มที่ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคายางได้ในระดับ หนึ่ง
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา |
[/td][/tr][/table]