วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557
[/t]วิเคราะห์ | | [/size]1. สภาพภูมิอากาศ | [/size]- อิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกและตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง | | [/size]2. การใช้ยาง | [/size]- รายงานของคณะกรรมการยางอินเดียเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 ระบุว่า อินเดียนำเข้ายางธรรมชาติเดือนพฤษภาคม 34,419 ตัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 64.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากการลดลงของราคายางธรรมชาติและความต้องการของอุตสาหกรรมยางล้อในประเทศสูงขึ้น ขณะที่รายงานระบุว่าปริมาณผลผลิตยางธรรมชาติของอินเดียปรับลดลงมาอยู่ที่ 53,000 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 59,000 ตัน ขณะที่ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นเป็น 83,500 ตัน เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 81,325 ตัน สำหรับการนำเข้ายางธรรมชาติในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมิถุนายนน่าจะเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 70.0 เนื่องจากตลาดในประเทศแข็งแกร่งและราคายางในตลาดโลกยังคงปรับตัวลดลง กระตุ้นให้ผู้ผลิตยางล้อนำเข้ามากขึ้น | | [/size]3. เศรษฐกิจโลก | [/size]- ธนาคารกลางจีนประกาศจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรอง (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลงร้อยละ 0.5 สำหรับธนาคารที่มีการจัดสรรเงินกู้ให้แก่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร และกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 มิถุนายน 2557- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเพิ่มขึ้นแตะ 118.58 จุดในเดือนพฤษภาคม จาก 117.32 จุดในเดือนเมษายน ชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวด้านจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นในตลาดแรงงานสหรัฐฯ- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนเมษายนหดตัวลงร้อยละ 76.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 1.874 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นมูลค่าน้อยที่สุดในรอบ 32 ปี เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดการนำเข้าเชื้อเพลิง และการอ่อนค่าของเงินเยน ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า- [/size]ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลงร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากหดตัวลงร้อยละ 2.0 ในเดือนเมษายน หากเทียบเป็นรายเดือนลดลงร้อยละ 0.1
- [/size]ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤษภาคมปรับตัวขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.8 ในเดือนเมษายน หากเทียบเป็นรายเดือนปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.1
| | [/size]4. อัตราแลกเปลี่ยน | [/size]- เงินบาทอยู่ที่ 32.46 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.02 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ- เงินเยนอยู่ที่ 102.40 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.47 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ | | [/size]5. ราคาน้ำมัน | [/size]- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดตลาดที่ 104.41 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกที่แข็งแกร่งของจีน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม | | [/size]6. การเก็งกำไร | [/size]- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 185.8 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.5 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 194.3 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.5 เยนต่อกิโลกรัม- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 205.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.2 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม | | [/size]7. ข่าว | [/size]- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ คาดว่าการชะลอตัวของอุปสงค์ด้านที่อยู่อาศัยของจีนในปัจจุบันจะยืดเยื้อยาวนานกว่า 2 ครั้งก่อน อันเป็นผลมาจากการปรับสมดุลทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และปริมาณสต๊อคที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
- คณะผู้แทนระดับสูงจากสหรัฐฯ และอิหร่านร่วมหารือกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในหลายทศวรรษ เพื่อพยายามเจรจาแผนการนิวเคลียร์ของอิหร่านต่อไป ขณะที่การเจรจาเต็มรูปแบบของกลุ่ม P5+1 (สหรัฐฯ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน และรัสเซีย + อิหร่าน) มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16 - 20 มิถุนายน 2557 ที่กรุงเวียนนา- ผลสำรวจจากแบงค์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ เปิดเผยว่า ภาคครัวเรือนของจีนมีความเชื่อมั่นลดลงเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยความต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของภาคครัวเรือนลดลงร้อยละ 3.0 อยู่ที่ 99.0 จุด นับเป็นครั้งแรกที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าจุดคุ้มทุน | | [/size]8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ | [/size]- ราคายางทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะต่างประเทศกดราคาโดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ค่อยดี พยายามไม่ซื้อแพง ขณะที่ผู้ประกอบการในประเทศบางรายยังคงพยายามผลักดันให้ราคาสูงขึ้น และไม่ขายในราคาต่ำ เพราะคาดว่าจะทำให้ราคาสูงขึ้นได้ในระยะต่อไป |
[/size]แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกจากความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด รวมถึงยังไม่มีการระบายสต๊อคยางของรัฐบาลไทย และอุปทานยางที่ออกสู่ตลาดไม่เต็มที่ในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม ราคายางยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด เพราะยังมีแรงกดดันจากเงินเยนและเงินบาทแข็งค่าขึ้น อีกทั้งความกังวลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนชะลอตัว อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน คณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดและราคายาง สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา [/size]
[/size] |
[/td][/tr][/table]
